xs
xsm
sm
md
lg

กฟผ.วอนไม่เผาไร่อ้อย ใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเพื่อความปลอดภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กฟผ.ขอความร่วมมือไม่เผาไร่อ้อย ตลอดจนซังข้าวและวัชพืช โดยเฉพาะในเขตพื้นที่แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูงในช่วงฤดูกาลเปิดหีบอ้อย เพราะนอกจากจะส่งผลอันตรายถึงชีวิต ทรัพย์สินแล้ว ยังอาจทำให้กระทบต่อระบบไฟฟ้าของประเทศได้ด้วย


นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ช่วงฤดูกาลเปิดหีบอ้อยมักจะมีการเผาไร่อ้อย โดยเฉพาะก่อนตัดส่งเข้าโรงงานผลิตน้ำตาล ซึ่งการเผาหญ้า เผาวัชพืช เผาซังข้าวหลังการเก็บเกี่ยว บริเวณใกล้พื้นที่แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจะทำให้เกิดควัน เขม่า และเปลวไฟ ส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรสู่พื้นดิน เป็นอันตรายแก่พี่น้องประชาชน เกษตรกรที่อยู่บริเวณดังกล่าว ทั้งผู้ก่อกองไฟหรือผู้อยู่ใกล้เคียง อาจได้รับอันตรายถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงขนาดแรงดันหลายแสนโวลต์ดูดได้ รวมถึงอาจเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลเสียหายต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า ทั้งภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้ “เสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง” จึงต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา

เสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงดูแลและรับผิดชอบโดย กฟผ. เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญของระบบไฟฟ้า เปรียบเสมือน “เส้นเลือดใหญ่แห่งพลังงาน” ทำหน้าที่เชื่อมโยงกระแสไฟฟ้าจากระบบผลิตไปยังระบบจำหน่าย คือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กฟผ.จึงขอความร่วมมือไม่จุดไฟเผาไร่อ้อยและเผาวัชพืชในพื้นที่ใกล้เสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่เฉพาะตัวพี่น้องประชาชนเท่านั้น แต่ทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าตกไฟฟ้าดับ

นอกจากนี้ ควันและเขม่าจากการเผาไร่อ้อยและเผาวัชพืชดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ตลอดจนเป็นอันตรายต่อทัศนวิสัยในการเดินทางและการคมนาคม อีกทั้งเมื่อเกิด “ไฟตก ไฟดับ” ย่อมส่งผลต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า ทั้งภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ และกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมหลายประเภทที่ต้องหยุดชะงัก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้างอย่างคาดไม่ถึง

“ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนสำหรับความร่วมมือ และหากพบเหตุเกี่ยวกับเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. โปรดแจ้งศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. โทร. 1416” รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น