[ชมคลิป[ ต้องชม ! ครั้งแรกของการรวมตัว “เซเลบออนไลน์”

แบรนด์วีต้าเบอร์รี่ เปิดตัวแคมเปญการตลาดแนวใหม่ส่งท้ายปี 58 เร่งยอดขายโต 10% ดึง “6 เซเลบออนไลน์รุ่นใหม่” ที่มาแรงในโลกโซเชียล ทั้ง “อีเจี๊ยบ เลียบด่วน - Jay The Rabbit - น้องมายด์ - ช่าบันทึกของตุ๊ด - พ่อบ้านใจกล้า - ยูโร เชอบัว มายา” ออกมากระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ติดจอหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพตา

น.ส.พุดตาน พงศ์พัฒนาไพบูลย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย “แบรนด์วีต้าเบอร์รี่” เปิดเผยว่า จากพฤติกรรมการติดหน้าจอของคนไทยโดยเฉลี่ย 7.2 ชั่วโมงต่อวันต่อคน ไม่ว่าจะเป็นจอเครื่องมือสื่อสารต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้ดวงตามีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดความผิดปกติได้ เพราะเมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเมื่ออยู่หน้าจอเป็นเวลานานมักจะมีอาการเกร็งตา หรือลืมกะพริบตา ทำให้มีอาการตาล้า พร่า หรือเบลอได้

“แบรนด์วีต้าเบอร์รี่” จึงได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการรวมตัวเหล่าเซเลบออนไลน์เจ้าของเพจชื่อดังที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ได้แก่ “เจี๊ยบ เลียบด่วน - คุณช่าบันทึกของตุ๊ด - น้องมายด์เน็ทไอดอล - พ่อบ้านใจกล้า - ยูโรเชอบัวมายากลุ่มหมาเซเลบ - ต่าย Jay The Rabbit” มาเป็นหัวหอกปลุกกระแสเตือนให้คนหันมาดูแลดวงตาผ่านมิวสิกวิดีโอประกอบเพลง “อยู่หน้าจอจากวีต้าเบอร์รี่” นับเป็นการสร้างการรับรู้และจดจำได้เป็นอย่างดี รวมทั้งตอกย้ำว่าในแต่ละวันเราใช้สายตากับหน้าจอต่างๆ เฉลี่ยมากถึง 7.2 ชั่วโมงต่อวันเลย

“สาเหตุที่เลือกเซเลบออนไลน์มาร่วมทำ MV ซึ่งนับเป็นการรวมตัวของเซเลบคนดังมากที่สุดครั้งแรก เพราะแต่ละคนมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังมีสไตล์การเล่าเรื่องที่สนุกสนานและเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน ทำให้มีคนติดตามเพจเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญแต่ละคนก็มีพฤติกรรมการใช้หน้าจอต่างๆ หลายชั่วโมงต่อวันซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแคมเปญที่ต้องการกระตุ้นให้คนหันมาดูแลดวงตา”

สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของแคมเปญนี้ “แบรนด์วีต้าเบอร์รี่” จะเน้นสร้าง engagement กับผู้บริโภคและกระตุ้นให้คนดูแลดวงตาด้วยการใช้หน้าจอแต่พอดี และดูแลดวงตาด้วย “แบรนด์วีต้าเบอร์รี่” ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งวัยรุ่น วัยเรียน และวัยทำงานที่มีไลฟ์สไตล์ติดหน้าจอ รวมทั้งผู้ใช้ชีวิตออนไลน์อย่างกว้างขวาง โดยให้กลุ่มเซเลบออนไลน์ที่คนติดตามเรื่องราวของพวกเขาผ่านเครื่องมือสื่อสารต่างๆ อยู่แล้วมาเป็นคนเตือนให้ทุกคนที่กำลังใช้สายตากับหน้าจออยู่ตอนนี้มาหันมาดูแลดวงตา โดยเน้นไปที่แคมเปญออนไลน์เพราะเป็นช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด พร้อมคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายได้ 10%