ASTVผู้จัดการรายวัน - ค้าปลีกประเมินกำลังซื้อไตรมาสสี่ยังคงทรงตัว แม้ภาครัฐจะออกมาตรการมากระตุ้น แต่คงเห็นผลปีหน้า โค้งสุดท้ายปีนี้ผู้ประกอบการต้องประคองตัว เร่งอัดแคมเปญโปรโมชันราคาแรงๆ ดึงกำลังซื้อ
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2558 ว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงทรงตัวอยู่เหมือนเดิม แต่เชื่อมั่นว่าด้วยมาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่หลากหลายนั้นคงจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วงปลายปี 2558 หรือต้นปี 2559 แต่ทั้งนี้คงจะต้องมีการประเมินอีกครั้งในช่วง 2-3 เดือนต่อจากนี้
ส่วนมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาไม่นานนี้คงจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคได้มากขึ้น เพราะว่าเป็นแนวทางที่ดี โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมการโอนสำหรับผู้ซื้อบ้านในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ถือเป็นการช่วยเร่งให้เกิดการโอนที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น
นายบุณยสิทธิ์ยังกล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวแล้วมีความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่นี้แตกต่างจากนโยบายรถคันแรกที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากซึ่งมองว่านโยบายของรัฐบาลชุดนี้ได้เดินมาถูกทางแล้ว และหวังว่าเศรษฐกิจต่อจากนี้จะฟื้นตัวดีขึ้น และคาดว่าปีหน้าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวเนื่องเพราะว่าเศรษฐกิจของไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
*** “บิ๊กซี” จัดแคมเปญ “ราคาถูกลงกว่าปีที่แล้ว” ***
ด้าน นายโรเบิร์ต ก็อดวิน รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาสที่สี่ปี 2558 ดูเหมือนว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงไม่กระเตื้องขึ้นมากนัก แม้ว่ากำลังซื้อยังพอมีอยู่แต่ว่าจะระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และจะซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็น อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปด้วย คือ แม้จะมาห้างบ่อยขึ้นแต่ปริมาณการซื้อต่อครั้งจะน้อยลง ขณะที่ความภักดีต่อแบรนด์ค้าปลีกจะน้อยลง และหันมาให้ความสำคัญต่อราคาและโปรโมชันของแต่ละห้างเป็นหลักว่าที่ใดราคาต่ำกว่ากันและมีแคมเปญแรงๆ มากกว่า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้ทางภาครัฐจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินการลงทุนและมีการก่อสร้างต่างๆ เช่น การก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและการอัดฉีดเม็ดเงินทางด้านเศรษฐกิจโครงการต่างๆ จะช่วยทำให้ปีหน้าภาพรวมน่าจะดีขึ้นบ้าง
ล่าสุด “บิ๊กซี” ได้จัดแคมเปญ “ราคาถูกลงกว่าปีที่แล้ว” หรือ “Cheaper than last year” ด้วยการนำสินค้ามากกว่า 5 พันรายการมาลดราคาให้ถูกลงกว่าที่ขายเดือนเดียวกันปี 2557 ทั้งในกลุ่มอาหารสด สินค้าอุปโภคบริโภคทุกประเภทในราคาปกติและราคาโปรโมชันที่จะมีการผลัดเปลี่ยนประจำทุกสัปดาห์เพื่อรุกตลาดในไตรมาสสี่นี้ซึ่งแคมเปญนี้ทำให้ผู้บริโภคของบิ๊กซีลดภาระอย่างน้อย 5% ต่อการชอปปิ้งแต่ละครั้งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงบลงทุนด้านการตลาดปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 9 พันล้านบาทที่มีการจัดแคมเปญด้านราคาต่างๆ ตั้งแต่ต้นปี เช่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อ 2 แถม 1 และงานมหกรรมลดราคาสินค้าแม่และเด็ก หรือการลดราคาอาหารสด 10% ทุกวันพุธ เป็นต้น ซึ่ง “บิ๊กซี” ได้มีการจัดการปรับระบบการลดต้นทุนภายในองค์กร การจัดการด้านซัปพลายเชนจากการเปิดใช้ศูนย์กระจายสินค้าด้านอาหารสดที่ลาดกระบังในปีนี้ และการเปิดศูนย์กระจายสินค้าสำหรับ “มินิ บิ๊กซี” ที่ธัญบุรีเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ช่วยลดระยะการเดินทางและการสูญเสียได้มากกว่า 1 พันล้านบาทต่อปี
ปัจจุบัน “บิ๊กซี” มีไฮเปอร์มาร์เกต 124 สาขา, บิ๊กซีมาร์เก็ต 45 สาขา มินิบิ๊กซี 368 สาขา ร้านขายยาเพรียว 161 สาขา รวมทั้งหมดมีมากกว่า 698 สาขาทั่วประเทศในทุกโมเดล
*** “ตั้งฮั่วเส็ง” หวังนโยบายรัฐกระตุ้นกำลังซื้อ ***
นายเชษฐา จุนประทีปทอง ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า “ตั้งฮั่วเส็ง” กล่าวให้ความเห็นว่า ในไตรมาสสี่ปีนี้ภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมอาจจะยังทรงๆ อยู่ แต่ก็คาดว่ายังคงมีการจับจ่ายอยู่บ้าง เพราะปกติแล้วไตรมาสสี่เป็นช่วงของฤดูกาลจับจ่ายอยู่แล้วมากกว่าไตรมาสอื่น แต่อย่างไรก็ดี ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยอาจจะเริ่มดีขึ้นในต้นปีหน้า หลังจากที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการต่างๆ ของภาครัฐเข้ามาสู่ระบบ
*** “โฮมโปร” อัดโปรฯ แรง “ช้อปทุกวันพุธ” ***
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในปัจจุบันส่งผลให้เกิดกำลังซื้อหดตัว “โฮมโปร” จึงจัดโปรโมชันพิเศษ “ช้อปทุกวันพุธ” ลดแล้วรับเพิ่ม...สุดคุ้มถึง 5 ต่อ ให้ลูกค้าครอบคลุมกว่า 76 สาขา หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงกำลังซื้อครึ่งปีหลัง ชอป 10,000 รับ 1,000 พร้อมรับของกำนัล และที่พลาดไม่ได้ ชอปทุกวันพุธ ลดเพิ่มสูงสุด 26% ชอปติดต่อกัน 3 สัปดาห์ รับเลย 3,000 คะแนน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 25 พ.ย. 58
“เราทำแคมเปญนี้เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจและสนองตอบนโยบายภาครัฐ ตลอดจนเป็นการกระตุ้นยอดขายปลายปีเพื่อเป็นการคืนกำไรแก่ลูกค้า ดึงกำลังซื้อครึ่งปีหลังกลับมา ในฐานะผู้ประกอบการยังคงต้องทุ่มงบประมาณเพื่ออัดโปรโมชันกระตุ้นลูกค้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ทำให้โฮมโปรเดินหน้าจัดโปรโมชันอย่างต่อเนื่องพิเศษยิ่งขึ้นกับโปรโมชันครั้งเดียวในรอบปีที่มอบให้เป็นการขอบคุณลูกค้า” นายณัฏฐ์กล่าว
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2558 ว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงทรงตัวอยู่เหมือนเดิม แต่เชื่อมั่นว่าด้วยมาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่หลากหลายนั้นคงจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วงปลายปี 2558 หรือต้นปี 2559 แต่ทั้งนี้คงจะต้องมีการประเมินอีกครั้งในช่วง 2-3 เดือนต่อจากนี้
ส่วนมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาไม่นานนี้คงจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคได้มากขึ้น เพราะว่าเป็นแนวทางที่ดี โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมการโอนสำหรับผู้ซื้อบ้านในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ถือเป็นการช่วยเร่งให้เกิดการโอนที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น
นายบุณยสิทธิ์ยังกล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวแล้วมีความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่นี้แตกต่างจากนโยบายรถคันแรกที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากซึ่งมองว่านโยบายของรัฐบาลชุดนี้ได้เดินมาถูกทางแล้ว และหวังว่าเศรษฐกิจต่อจากนี้จะฟื้นตัวดีขึ้น และคาดว่าปีหน้าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวเนื่องเพราะว่าเศรษฐกิจของไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
*** “บิ๊กซี” จัดแคมเปญ “ราคาถูกลงกว่าปีที่แล้ว” ***
ด้าน นายโรเบิร์ต ก็อดวิน รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาสที่สี่ปี 2558 ดูเหมือนว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงไม่กระเตื้องขึ้นมากนัก แม้ว่ากำลังซื้อยังพอมีอยู่แต่ว่าจะระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และจะซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็น อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปด้วย คือ แม้จะมาห้างบ่อยขึ้นแต่ปริมาณการซื้อต่อครั้งจะน้อยลง ขณะที่ความภักดีต่อแบรนด์ค้าปลีกจะน้อยลง และหันมาให้ความสำคัญต่อราคาและโปรโมชันของแต่ละห้างเป็นหลักว่าที่ใดราคาต่ำกว่ากันและมีแคมเปญแรงๆ มากกว่า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้ทางภาครัฐจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินการลงทุนและมีการก่อสร้างต่างๆ เช่น การก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและการอัดฉีดเม็ดเงินทางด้านเศรษฐกิจโครงการต่างๆ จะช่วยทำให้ปีหน้าภาพรวมน่าจะดีขึ้นบ้าง
ล่าสุด “บิ๊กซี” ได้จัดแคมเปญ “ราคาถูกลงกว่าปีที่แล้ว” หรือ “Cheaper than last year” ด้วยการนำสินค้ามากกว่า 5 พันรายการมาลดราคาให้ถูกลงกว่าที่ขายเดือนเดียวกันปี 2557 ทั้งในกลุ่มอาหารสด สินค้าอุปโภคบริโภคทุกประเภทในราคาปกติและราคาโปรโมชันที่จะมีการผลัดเปลี่ยนประจำทุกสัปดาห์เพื่อรุกตลาดในไตรมาสสี่นี้ซึ่งแคมเปญนี้ทำให้ผู้บริโภคของบิ๊กซีลดภาระอย่างน้อย 5% ต่อการชอปปิ้งแต่ละครั้งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงบลงทุนด้านการตลาดปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 9 พันล้านบาทที่มีการจัดแคมเปญด้านราคาต่างๆ ตั้งแต่ต้นปี เช่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อ 2 แถม 1 และงานมหกรรมลดราคาสินค้าแม่และเด็ก หรือการลดราคาอาหารสด 10% ทุกวันพุธ เป็นต้น ซึ่ง “บิ๊กซี” ได้มีการจัดการปรับระบบการลดต้นทุนภายในองค์กร การจัดการด้านซัปพลายเชนจากการเปิดใช้ศูนย์กระจายสินค้าด้านอาหารสดที่ลาดกระบังในปีนี้ และการเปิดศูนย์กระจายสินค้าสำหรับ “มินิ บิ๊กซี” ที่ธัญบุรีเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ช่วยลดระยะการเดินทางและการสูญเสียได้มากกว่า 1 พันล้านบาทต่อปี
ปัจจุบัน “บิ๊กซี” มีไฮเปอร์มาร์เกต 124 สาขา, บิ๊กซีมาร์เก็ต 45 สาขา มินิบิ๊กซี 368 สาขา ร้านขายยาเพรียว 161 สาขา รวมทั้งหมดมีมากกว่า 698 สาขาทั่วประเทศในทุกโมเดล
*** “ตั้งฮั่วเส็ง” หวังนโยบายรัฐกระตุ้นกำลังซื้อ ***
นายเชษฐา จุนประทีปทอง ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า “ตั้งฮั่วเส็ง” กล่าวให้ความเห็นว่า ในไตรมาสสี่ปีนี้ภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมอาจจะยังทรงๆ อยู่ แต่ก็คาดว่ายังคงมีการจับจ่ายอยู่บ้าง เพราะปกติแล้วไตรมาสสี่เป็นช่วงของฤดูกาลจับจ่ายอยู่แล้วมากกว่าไตรมาสอื่น แต่อย่างไรก็ดี ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยอาจจะเริ่มดีขึ้นในต้นปีหน้า หลังจากที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการต่างๆ ของภาครัฐเข้ามาสู่ระบบ
*** “โฮมโปร” อัดโปรฯ แรง “ช้อปทุกวันพุธ” ***
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในปัจจุบันส่งผลให้เกิดกำลังซื้อหดตัว “โฮมโปร” จึงจัดโปรโมชันพิเศษ “ช้อปทุกวันพุธ” ลดแล้วรับเพิ่ม...สุดคุ้มถึง 5 ต่อ ให้ลูกค้าครอบคลุมกว่า 76 สาขา หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงกำลังซื้อครึ่งปีหลัง ชอป 10,000 รับ 1,000 พร้อมรับของกำนัล และที่พลาดไม่ได้ ชอปทุกวันพุธ ลดเพิ่มสูงสุด 26% ชอปติดต่อกัน 3 สัปดาห์ รับเลย 3,000 คะแนน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 25 พ.ย. 58
“เราทำแคมเปญนี้เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจและสนองตอบนโยบายภาครัฐ ตลอดจนเป็นการกระตุ้นยอดขายปลายปีเพื่อเป็นการคืนกำไรแก่ลูกค้า ดึงกำลังซื้อครึ่งปีหลังกลับมา ในฐานะผู้ประกอบการยังคงต้องทุ่มงบประมาณเพื่ออัดโปรโมชันกระตุ้นลูกค้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ทำให้โฮมโปรเดินหน้าจัดโปรโมชันอย่างต่อเนื่องพิเศษยิ่งขึ้นกับโปรโมชันครั้งเดียวในรอบปีที่มอบให้เป็นการขอบคุณลูกค้า” นายณัฏฐ์กล่าว
