ธุรกิจกลางเล็กรัดเข็มขัดตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว ฉุดยอดคำสั่งพิมพ์ปฏิทิน ไดอารี และบัตรอวยพรปีใหม่หรือ ส.ค.ส.ต้อนรับปี 2559 ไม่คึกคักเช่นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ส.ค.ส.ที่ยังลดลงต่อเนื่อง 5-6 ปีหลังเน้นใช้ E-Card ส่งผ่านไลน์ เฟซบุ๊ก
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานและประธานคลัสเตอร์การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดคำสั่งพิมพ์ปฏิทิน สมุดจดบันทึก (ไดอารี) บัตรอวยพรส่งความสุข หรือ ส.ค.ส. เพื่อที่จะส่งมอบเป็นของขวัญเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ (พ.ศ. 2559) ค่อนข้างชะลอตัวและมาช้ากว่าปกติทุกปี โดยเฉพาะคำสั่งพิมพ์จากธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กนั้นมีอัตราการลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ เนื่องจากภาคธุรกิจตัดลดงบประมาณส่วนนี้ลงเพื่อให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
“ปกติคำสั่งซื้อจะทยอยเข้ามาช่วงกลาง ก.ย.ของทุกปี แต่ปีนี้มาค่อนข้างล่าที่คำสั่งซื้อเพิ่งจะมีทยอยมาช่วง ต.ค. และมีมาค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจ เป็นต้น โดยบางบริษัทที่สั่งพิมพ์บางส่วนจะมองในเรื่องของการกระตุ้นตลาดไปด้วย แต่ส่วนรายกลางและเล็กยอดสั่งพิมพ์น้อยมากขณะนี้” นายเกรียงไกรกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบัตรอวยพรตามเทศกาลต่างๆ ทั้งวันเกิด และรวมถึง ส.ค.ส.ปีใหม่นั้นได้ลดลงต่อเนื่องช่วง 5-6 ปีมาแล้วมากกว่า 70% เนื่องจากถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความสะดวก ทั้งบัตรอวยพรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Card) ซึ่งในปัจจุบันมีเว็บไซต์เป็นจำนวนมากทั้งไทยและต่างประเทศที่ให้บริการส่ง e-card ในวาระหรือเทศกาลต่างๆ ที่แสนสะดวกสบาย ซึ่งมีทั้งแบบที่เสียค่าใช้จ่ายและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย รวมถึงการส่งข้อความผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น ข้อความผ่านมือถือ เฟซบุ๊ก ไลน์ เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ปี 2558 ภาพรวมคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงประมาณ 5-10% จากปี 2557 เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว รวมถึงภาวะการส่งออกของไทยที่แนวโน้มปีนี้จะติดลบกว่า 5% จากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยโดยเฉพาะตลาดหลักๆ ทั้งจีน สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม การที่ไทยจะเริ่มเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC คาดว่าตลาดอาเซียนจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้ได้รับอานิสงส์การส่งออกที่เพิ่มขึ้นในปี 2559 ซึ่งจะสามารถชดเชยตลาดหลักๆ ที่อาจจะยังไม่สามารถกลับมาพลิกฟื้นการเติบโตได้เร็วนัก