xs
xsm
sm
md
lg

“ASICS” เปลี่ยนคู่ค้าปรับเกมรุก “สปอร์ตฯ” หั่นราคา-เพิ่มจุดขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“โยเกซ คานธี” (ขวา) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอซิค พีทีอี จำกัด และ “พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา” (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท สปอร์ต รีโวลูชั่น จำกัด
ASTVผู้จัดการรายวัน - “เอซิค” ปรับเกมรุกในไทย ตั้งดิสทริบิวเตอร์ใหม่ทำตลาดด้านสปอร์ตรีโวลูชั่น ปรับกลยุทธ์ลุยชู 3 หมัดเด็ด “เข้าถึงง่าย-ปรับราคาลง-อัดกิจกรรม” คุยโว ตั้งเป้ายอดขาย 700 ล้านบาทใน 3 ปี พร้อมดันสู่ท็อปทรีรองเท้าวิ่งอินเตอร์แบรนด์ด้วยแชร์ 25%

นายโยเกซ คานธี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอซิค พีทีอี จำกัด ในเครือของเอซิคญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทได้แต่งตั้งดิสทริบิวเตอร์รายใหม่ในไทยเพื่อรับผิดชอบรองเท้าแบรนด์ “เอซิค”(ASICS) คือ บริษัท สปอร์ต รีโวลูชั่น จำกัด อย่างเป็นทางการในต้นปีนี้ โดยมีสัญญานาน 3 ปี หลังจากที่รายเก่าหมดสัญญาลงไปแล้ว เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและรุกตลาดในไทยอีกครั้งอย่างจริงจังซึ่งประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตดีและเป็นตลาดเป้าหมายแห่งหนึ่งของเอซิคด้วยในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้

ทั้งนี้ “เอซิค” มียอดขายสัดส่วนมาจากในญี่ปุ่น 20% และมาจากทั่วโลกนอกญี่ปุ่นอีก 80% โดยรองเท้าวิ่งเป็นสัดส่วนยอดขายมากกว่า 70% ขณะที่สัดส่วนยอดขายรองเท้าวิ่งที่มาจากเอเซียนตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 60% โดยบริษัทฯมีรองเท้า 3 แบรนด์ที่ทำตลาดในไทยคือ “เอซิค” มีสัดส่วนยอดขาย 40% แบรนด์ “โอนิตซูกะ ไทเกอร์” มีสัดส่วน 48% และแบรนด์ “เอซิค ไทเกอร์” สัดส่วน 2% โดยสองแบรนด์หลังมีดิสทริบิวเตอร์คือ กลุ่มแอลเอ็มอี ซึ่งหากรวมยอดขายทั้งหมด 3 แบรนด์ในไทยถือเป็นอันดับที่สองในเซาท์อีสต์เอเซีย

ด้าน นายพรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สปอร์ต รีโวลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในช่วง 3 ปีนี้จะต้องผลักดันรองเท้าวิ่ง “เอซิค” ให้มียอดขาย 700 ล้านบาทและทำให้มีส่วนแบ่ง 25% และติดท็อปทรีให้ได้ในส่วนของตลาดรองเท้าวิ่งอินเตอร์แบรนด์ จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งเพียง 7% อยู่ในอันดับที่สี่ โดยมีผู้นำตลาดที่เป็นแบรนด์หลักคือ ไนกี้, อาดิอาส, รีบอค, มิซูโน จากมูลค่าตลาดรวมรองเท้าวิ่งอินเตอร์แบรนด์ประมาณ 2,800-3,000 ล้านบาท เติบโต 25-30%

“จากการวิเคราะห์พบว่า ตลาดของเอซิคในไทยยังมีอยู่ เพียงแต่ที่ผ่านมาช่องทางจำหน่ายน้อย ทำให้เข้าถึงลูกค้ายากและราคาก็ยังสูงอยู่ เมื่อเราเข้ามาทำตลาด ต้องปรับแผนและกลยุทธ์ใหม่เป็นเชิงรุก เพราะตลาดก็แข่งขันรุนแรง ซึ่งในปีแรกนี้เราตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 200 ล้านบาท สัดส่วนยอดขายมาจากรองเท้า 90% และอื่นๆ 10%”

กลยุทธ์หลักจะทำในเชิงรุกเน้น 3 ปัจจัยคือ 1.การเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายด้วยการขยายช่องทางจำหน่ายให้มากโดยเปิดชอปของ “เอซิค” เองไปแล้วแห่งแรกที่เมกาบางนา พื้นที่ 135 ตารางเมตร และปีนี้จะเปิดชอปอีกที่สเปล ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, เซ็นทรัลเวสต์เกต ส่วนสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์จะเปิดปีหน้า ตั้งเป้าหมายสิ้นปีหน้าจะมีครบ 10 ชอป ลงทุนเฉลี่ย 20 ล้านบาทต่อสาขา นอกจากนั้นยังจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ที่ตอนนี้มีกว่า 30 ราย และร้านมัลติแบรนด์ เช่น สปอร์ตเวิลด์, ซูเปอร์สปอร์ต เป็นต้น ส่วนร้านที่เซ็นทรัลเวิลด์ของผู้รับผิดชอบรายเดิมก็จะเปลี่ยนมาเป็นดีลเลอร์แทน

2.การปรับโครงสร้างราคาในไทยให้ต่ำลงจากเดิม 15% ทำให้ราคาใกล้เคียงกับที่ขายในเอเซียด้วยกัน ขณะนี้รองเท้าวิ่งเอซิคในไทยราคาต่ำสุดอยู่ที่ 2,000 กว่าบาท และสูงสุดอยู่ที่ 6,500 บาท เป็นต้น และ 3.การจัดกิจกรรม โดยปีนี้ใช้งบตลาดรวม 35 ล้านบาท ล่าสุดคือการนำเข้าเครื่อง “ASICS FOOT ID” ราคา 1 ล้านบาท เข้ามาบริการลูกค้าในการวัดขาเพื่อหารองเท้าที่เหมาะสมในการสวมใส่



กำลังโหลดความคิดเห็น