xs
xsm
sm
md
lg

ชาวไร่ตบเท้าพบ รมว.อุตฯ 11 ก.ย. เร่งหาแผนรับมือราคาอ้อยต่ำสุดรอบ 6 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


4 องค์กรชาวไร่อ้อยเตรียมตบเท้าเข้าพบ “อรรชกา” รมว.อุตสาหกรรม หวังเสนอให้เตรียมมาตรการรองรับราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2558/59 ที่มีแนวโน้มจะตกต่ำสุดในรอบ 6-7 ปีหลังน้ำตาลตลาดโลกลดหนัก หวังให้ได้คุ้มกับต้นทุนผลิต ขณะที่กองทุนอ้อยฯ ภาระหนี้พุ่ง หวั่นก่อหนี้เพิ่มลำบาก

นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยและหัวหน้าสำนักงานสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 7 เปิดเผยว่า วันที่ 11 ก.ย.นี้ 4 ตัวแทน 4 องค์กรชาวไร่อ้อย ได้แก่ สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย จะเข้าพบนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อเยี่ยมคารวะและหารือถึงปัญหาราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 58/59 ที่คาดว่าจะตกต่ำสุดในรอบ 6-7 ปี จึงต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรมหามาตรการรองรับไว้

“ปกติการประกาศราคาอ้อยขั้นต้นจะเริ่มก่อนฤดูกาลเปิดหีบ คือ ต.ค.-พ.ย. ของทุกปีแต่ปีนี้ชาวไร่อ้อยค่อนข้างกังวงมากเพราะราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกเฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ระดับกว่า 11 เซ็นต์ต่อปอนด์เท่านั้น ขณะที่บริษัทอ้อยและน้ำตาลไทย หรือ อนท.ยังไม่สามารถทำราคาขายน้ำตาลล่วงหน้าได้เพราะราคาต่ำเกินไป ซึ่งน้ำตาลส่วนนี้จะต้องนำมาคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นปี 58/59 ซึ่งหากทำราคาได้เฉลี่ย 12.5-13 เซ็นต์ต่อปอนด์ราคาอ้อยคงจะอยู่ที่ระดับ 800 บาทต่อตัน แต่ต้นทุนชาวไร่จริงนั้นอยู่ที่ 1,200 บาทต่อตัน” นายนราธิปกล่าว

ทั้งนี้ หากพิจารณาปัจจัยดังกล่าว ราคาอ้อยขั้นต้นฯ จะไม่คุ้มต้นทุนการผลิตชาวไร่ ซึ่งที่ผ่านมาการเพิ่มราคาจะดำเนินการโดยให้กองทุนอ้อยและน้ำตาล (กท.) ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งฤดูการผลิตปีที่แล้วก็กู้มาเพิ่มราคาอ้อยอีกตันละ 160 บาท ทำให้ กท.ขณะนี้มีภาระหนี้รวมสูงกว่า 2 หมื่นล้านบาท และการชำระหนี้จะไปสิ้นสุดช่วงกลางปี 2560 ซึ่งไม่มั่นใจว่ารายได้ที่มีอยู่จะสามารถก่อหนี้เพิ่มได้มากน้อยเพียงใด

นอกจากนี้ ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 57/58 ยังมีทิศทางที่จะต่ำกว่าขั้นต้นอีก ซึ่งจะส่งผลให้ กท.จะต้องหาเงินมาชำระหนี้คืนโรงงานตามกฎหมาย ดังนั้นภาระหนี้โดยรวมก็จะสูงขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันรัฐบาลได้มีนโยบายกับกระทรวงอุตสาหกรรมกรณีหากจะกู้เงินเพิ่มจะต้องทำการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายประกอบด้วย ซึ่งเรื่องนี้ชาวไร่ฯ เองก็เห็นว่าสถานการณ์ราคาน้ำตาลทรายและอ้อยตกต่ำ การปรับโครงสร้างราคาน้ำตาลจึงไม่เหมาะจะดำเนินการในช่วงนี้ แต่เห็นควรที่จะต้องมาดูเกณฑ์การคำนวณราคาอ้อยในบางส่วนใหม่ เช่น รายได้จากผลผลิตที่ต่อเนื่องจากอ้อยและน้ำตาล การดูระเบียบการชำระเงิน กท.ให้เข้มงวดขึ้น เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น