กกร.ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2558 ลดลงจากเดิมโต 3.5% เหลือ 3% จากทิศทางการส่งออกที่คาดว่าจะติดลบ 2% มองปัญหากรีซกระทบระยะสั้น
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบด้วย สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ว่า กกร.ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2558 จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่แล้วจะเติบโต 3.5% เหลือ 3% เนื่องจากปัจจัยหลักภาวะการส่งออกที่ฟื้นตัวกว่าที่คาดไว้ โดยมีแนวโน้มการส่งออกปีนี้จะติดลบ 2% จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะเติบโตไม่ถึง 1%
“เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป โดยการท่องเที่ยวยังคงรักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการลงทุนภาครัฐเบิกจ่ายได้มากขึ้น คาดหวังว่าเงินสะพัดในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป แต่ครึ่งปีหลังภาพรวมการลงทุนของเอกชนยังคงเปราะบาง” นายบุญทักษ์กล่าว
สำหรับผลกระทบต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกทั้งกรณีวิกฤตหนี้กรีซ รวมถึงกรณีการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่อาจเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมต่อการฟื้นตัวการส่งออกในระยะถัดไปนั้น เบื้องต้นประเมินว่ากรณีกรีซจะกระทบระยะสั้นต่อค่าเงินบาทของไทยและคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐอเมริกาแต่คงไม่ได้อ่อนค่ามากได้ในระยะยาว ด้านการค้าไทยมีการส่งออกไปยังกรีซไม่มากนัก ส่วนการชะลอตัวของจีนยังคงต้องจับตาใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม กรณีของอัตราดอกเบี้ยของไทยช่วงไตรมาส 3-4 นี้มีแนวโน้มจะลดลง 0.25%
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาวะการส่งออกของไทยยังคงต้องติตตามอีกช่วงหนึ่ง และหากทิศทางเปลี่ยนไปจากนี้ ไตรมาสต่อไป กกร.ก็อาจจะมีการปรับการคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจใหม่ได้ โดยสิ่งที่กังวลคือภาวะภัยแล้งที่จะกระทบต่อภาคเกษตรกรรม แต่ภาคอุตสาหกรรมไม่น่าวิตกเพราะมีการเตรียมแผนรองรับไว้อยู่แล้ว ดังนั้นรัฐบาลคงจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับจุลภาคหรือระดับล่างมากขึ้น
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 8 ก.ค.นี้ จะมีการหารือในกรณีที่สหภาพยุโรปได้ออกประกาศเตือนไทยให้จัดมาตรการยับยั้งประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU โดยเนื้อหาจะต้องรอการสรุปจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติช่วงบ่ายวันนี้