จับตาราคาน้ำมันขายปลีก 1-2 วันนี้ส่อแววขยับ โดยเฉพาะในส่วนของเบนซินและแก๊สโซฮอล์หลังค่าย “คาลเท็กซ์” ขึ้นนำแล้ว 0.50 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.เป็นต้นไป เหตุค่าการตลาดดิ่งไม่ถึง 1 บาทต่อลิตร หลังน้ำมันเบนซิน ดีเซลตลาดสิงคโปร์พุ่งพรวดทะลุ 3 เหรียญต่อบาร์เรล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ บมจ.ปตท. และ บมจ.บางจากปิโตรเลียมกำลังติดตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลกใกล้ชิด หากระดับราคาไม่มีการปรับลดลงมากนักอาจมีการพิจารณาปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันโดยเฉพาะกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น หลังจากล่าสุดค่ายน้ำมันคาลเท็กซ์ได้ปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์แล้ว 0.50 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.เป็นต้นไป ทำให้ระดับราคาขายปลีกของคาลเท็กซ์นำค่ายอื่นๆ
ทั้งนี้ ค่าการตลาดน้ำมันวันที่ 11 มิ.ย.ของกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์เฉลี่ยเหลือไม่ถึง 1 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลเฉลี่ย 1.40 บาทต่อลิตร ซึ่งค่าการตลาดที่ปรับลดลงต่อเนื่องเกิดจากระดับราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
รายงานข่าวจาก บมจ.ไทยออยล์แจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เวสต์เทกซัสปรับขึ้น 1.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลปิดที่ 61.43 เหรียญต่อบาร์เรล เบรนต์ปรับขึ้น 0.82 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 65.70 เหรียญต่อบาร์เรล น้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้น 3.01 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 63.88 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์เบนซิน 95 เพิ่มขึ้น 3.58 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 87.96 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซลเพิ่มขึ้น 3.10 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 77.37 เหรียญต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่เพิ่มขึ้นหลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ สัปดาห์ก่อนหน้า ปรับตัวลดลงราว 6.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล และเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับแต่ ก.ค. 2557 หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของโรงกลั่นน้ำมันดิบเพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำมันเบนซิน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวลดลงเช่นกันที่ 1.02 ล้านบาร์เรล