“แกมโบล” รีแบรนดิ้งชูไลฟ์สไตล์

ASTVผู้จัดการรายวัน - “แกมโบล” ทุ่ม 50 ล้านบาทรีแบรนดิ้ง ชูไลฟ์สไตล์ทุกกลุ่มเป็นตัวเจาะตลาด เป้าหมาย 3-5 ปีเป็นผู้นำตลาด ฮึดสู้คาดสิ้นปีนี้ตลาดรวมน่าจะดีขึ้น หลังนิ่งมา 2-3 ปีแล้ว

นายสุรชัย กิจกำจาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ “แกมโบล” เปิดเผยว่า ตลาดรวมรองเท้าลำลองในช่วง 2-3 ปีมานี้ไม่มีการเติบโตเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยจากเดิมที่เติบโตเฉลี่ยประมาณ 10% ขณะที่ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตลาดรวมยังคงทรงตัวอยู่ โดยคาดว่าภาพรวมตลาดรองเท้าจะดีขึ้นตามลำดับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

ในปีนี้บริษัทฯ ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาทในการทำการตลาดเต็มที่ มากกว่าปีก่อนๆ ที่อยู่ในระดับ 30 ล้านบาท โดยจะทำการรีแบรนดิ้ง “แกมโบล” ใหม่เพื่อสื่อสารให้มีความชัดเจนว่าเป็นรองเท้าลำลองที่เจาะกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ใช่เน้นแต่รองเท้าแบบวัยรุ่นที่มีสัดส่วนรายได้ที่ผ่านมาถึง 90% โดยหลังจากรีแบรนด์แล้วจะแบ่งกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นอายุ 13-25 ปี สัดส่วน 70% และอายุ 26-31 ปี สัดส่วน 30% โดยตั้งเป้าจะปรับสัดส่วนเป็น 60-40% และก้าวขึ้นเป็นรองเท้าแบรนด์ระดับ “ท็อป ออฟ มายด์” ภายใน 2 ปี

ปัจจุบัน “แกมโบล” มีส่วนแบ่งการตลาดติดท็อปทรี ด้วยส่วนแบ่งกว่า 15% โดยมีคู่แข่งหลักคือ “กีโต้” กับ “แอดด้า” โดยปัจจุบันผู้นำตลาดมีแชร์มากกว่า “แกมโบล” 2-3% ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะสลับกันไปมา ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายภายใน 3-5 ปีจากนี้จะต้องก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดให้ได้ โดยขณะนี้ “แกมโบล” ถือเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรองเท้าแฟชั่นวัยรุ่น และเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มรองเท้าระดับแมส

ล่าสุดได้เปิดตัวรองเท้า 4 กลุ่มใหม่รองรับการรีแบรนดิ้งครั้งนี้ที่จับไลฟ์สไตล์แต่ละกลุ่ม คือ 1. EZY (อีซี) เน้นความเรียบง่าย ความสบาย 2. ZAPP (แซบ) เน้นสีสันสดใส ใส่แล้วโดดเด่น อินเทรนด์ 3. ZAH (ซ่า) เน้นลวดลายกราฟิก มีดีเทลงานอาร์ต สำหรับเหล่าผู้ชื่นชอบงานกราฟฟิตีและกีฬาเอ็กซ์ตรีม 4. ZEEK (ซีค) เน้นงานลุยๆ สำหรับวัยรุ่นที่มีไลฟ์สไตล์ที่รักการท่องเที่ยว

ขณะเดียวกันจะขยายตลาดด้วยการเปิดแบรนด์ใหม่คือ “CANIA” ในปีนี้ เป็นรองเท้าสำหรับผู้ใหญ่อายุ 36 ปีขึ้นไป เน้นฟังก์ชันนัล ระดับราคา 300 บาทขึ้นไป ต่างจาก “แกมโบล” ที่เน้นอีโมชันนัล รวมไปถึงการขยายตลาดต่างประเทศจากเดิมส่งออกไปแล้วกว่า 26 ประเทศ โดยตลาดหลักจากรายได้ส่งออกทั้งหมดคือ ตะวันออกกลาง 40% เอเชียและอื่นๆ 40% ยุโรปและการรับจ้างผลิต 20%

ในส่วนของการผลิตนั้น ในปี 2557 ได้ลงทุน 200 กว่าล้านบาทก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มขึ้นใกล้กับที่เดิมบนถนนพระรามสอง ปัจจุบันมีกำลังผลิตรองเท้า 5 หมื่นคู่ต่อวัน แต่ผลิตจริงได้เพียง 85% ของกำลังผลิตหรือประมาณ 4 หมื่นคู่ต่อวัน โดยในปี 2557 มีรายได้รวมเกือบ 2 พันล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากแบรนด์ “แกมโบล” ประมาณ 1.5 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นโออีเอ็มและแบรนด์อื่นๆ ในเครือ ส่วนในปี 2558 ตั้งเป้ารายได้รวมมากกว่า 2 พันล้านบาท หรือเติบโต 20% คิดเป็นรายได้จากต่างประเทศ 20% และในประเทศ 80% แบ่งสัดส่วนยอดขายจากกรุงเทพฯ 30% และต่างจังหวัด 70%