“โฮมโปร” โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 58 โกยรายได้รวม 13,096.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,270.11 ล้านบาท หรือ 10.74% มีผลกำไรสุทธิ 733.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.95 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
“คุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 733.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.95 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม จำนวน 13,096.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,270.11 ล้านบาท หรือ 10.74% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นผลมาจากรายได้จากการขาย จำนวน 12,280.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,201.96 ล้านบาท หรือ 10.85% ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายสาขาใหม่ของโฮมโปร, เมกาโฮม และโฮมโปรมาเลเซีย ที่เปิดตั้งแต่ปี 2557 รวมถึงยอดขายจากโฮมโปร สาขาสุโขทัย ที่เปิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
บริษัทฯ มีรายได้ค่าเช่าและบริการ จำนวน 339.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.42 ล้านบาท หรือ 8.78% เป็นผลมาจากรายได้เช่าที่เพิ่มขึ้นของศูนย์การค้า “หัวหิน มาร์เก็ต วิลเลจ” รายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นจากพื้นที่ให้เช่าเพิ่มเติมของสาขาโฮมโปร สำหรับรายได้อื่นจำนวน 476.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.74 ล้านบาท หรือ 9.35% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ค่าโฆษณา การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้า และรายได้จากค่าบริการ “โฮมแคร์” จากลูกค้า
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 3,174.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 287.41 ล้านบาท หรือ 9.96% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายระหว่างปี อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายลดลงเล็กน้อยจาก 26.06% ในปีก่อนเป็น 25.85 % ซึ่งเป็นผลมาจากการรวมของโครงสร้างอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจเมกาโฮมที่ต่ำกว่าธุรกิจของโฮมโปร
สำหรับค่าใช้จ่ายในการขาย และการบริหาร สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2558 จำนวน 2,936.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 315.70 ล้านบาท หรือ 12.05 % เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินเดือน ค่าสาธารณูปโภค ค่าขนส่ง ค่าใช้จ่ายทางการตลาด ค่าเสื่อมราคา รวมถึงค่าใช้จ่ายจากการขยายธุรกิจเมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย