xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐกิจ-การเมืองทุบ “คิวรอน” ทรงตัว ชู “สปาร์คเคิล” ดันยอดยาสีฟัน 300 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“เดชฤทธิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวรอน จำกัด
“คิวรอน” ทุ่ม 400 ล้านบาทกระตุ้นตลาดผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ด้านการจัดแต่งทรงผมและความงาม มุ่งเป้ารายได้ปี 58 พุ่ง 2.2 พันล้านบาท เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ยาสีฟันลดคราบเหลืองและกลิ่นปากจากชาและกาแฟ รักษาแชมป์ตลาดยาสีฟันไวเทนนิ่งมูลค่า 900 ล้านบาทจากตลาดรวมกว่า 8.6 พันล้านบาท

นายเดชฤทธิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวรอน จำกัด ผู้นำตลาดด้านผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ด้านการจัดแต่งทรงผมและความงาม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ด้านการเมืองและเศรษฐกิจในปี 2557 ทำให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ทรงตัวสามารถทำรายได้รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้หลักจากอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม “Le’SASHA” 53% ผลิตภัณฑ์ดูแลฟันและช่องปาก “SPARKLE” 15% เตารีดไอน้ำ “@home” 9.5% อุปกรณ์ทำความสะอาดผิวหน้า “emjoi” 8% อุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกาย “jason” 5% ชุดชั้นในกระชับสัดส่วน “Leena” 2.5% และผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอางอื่น 7%

ในปี 2558 บริษัทฯ ใช้งบประมาณการตลาดรวม 300-400 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น 20% หรือคิดเป็นมูลค่า 2,200 ล้านบาท หลังจากช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้ประมาณ 23% โดยมีแผนการตลาดสำคัญคือการรีแบรนด์อุปกรณ์จัดแต่งทรงผม “Le’SASHA” จากผลิตภัณฑ์สไตล์เกาหลีให้เป็นระดับอินเตอร์มากขึ้น พร้อมกับใช้พรีเซ็นเตอร์ใหม่ที่เป็นสาวลูกครึ่ง โดยใช้งบประมาณการตลาดประมาณ 150 ล้านบาท

นายเดชฤทธิ์ยังกล่าวถึงตลาดยาสีฟันรวมในประเทศไทยด้วยว่า ปัจจุบันมีมูลค่าการตลาด 8,624 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 10% แบ่งเป็นยาสีฟันทั่วไป (Regular) 29% ยาสีฟันเพื่อการป้องกันรักษาโรคฟันและช่องปาก (Therapeutic) 35-36% ยาสีฟันสมุนไพร (Herbal) 22% ยาสีฟันดูแลช่องปากเพื่อสุขภาพฟันขาว (Whitening) 10% และยาสีฟันเด็ก (Kid) 3%

สำหรับผลิตภัณฑ์ “SPARKLE” ถือเป็นผู้นำตลาดในส่วนของ Whitening เนื่องจากเป็นผู้บุกเบิกตลาดรายแรกในประเทศไทย โดยปัจจุบันสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 25% จากมูลค่าตลาด 800-900 ล้านบาท คิดเป็นรายได้ประมาณ 200-220 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตขึ้น 18% โดยมีผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้น 12 ซีรีส์ รวม 21 เอสเคยูใน 3 กลุ่มหลัก คือ ยาสีฟัน 75% แปรงสีฟัน 15% ผลิตภัณฑ์ฟอกฟัน 8% และอื่นๆ 2%

ในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์ “SPARKLE” เพิ่มขึ้นประมาณ 30% คิดเป็นรายได้รวม 300 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณ 50 ล้านบาทในการดำเนินงานด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อภาพยนตร์โฆษณา สื่อออนไลน์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อกลางแจ้ง สื่อโฆษณา ณ จุดขาย และอื่นๆ รวมถึงเน้นขยายช่องทางตลาดทั่วไป (Traditional Trade) เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่คือ “SPARKEL Coffee&Tea Drinker Whitening” เพื่อช่วยขจัดและลดการสะสมของคราบเหลืองและกลิ่นปากจากชาและกาแฟ พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด “เลิฟชา กาแฟ แบบไม่แชร์กลิ่นและคราบ” รวมถึงจัดแคมเปญ “เก่าแลกใหม่” ด้วยการจัดโรดโชว์ตามอาคารสำนักงานต่างๆ ใจกลางเมือง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคนำหลอดยาสีฟันทุกยี่ห้อและทุกขนาดมาแลกยาสีฟัน “SPARKEL Coffee&Tea Drinker Whitening” ขนาด 50 กรัม มูลค่า 85 บาทฟรี เป็นจำนวน 2 หมื่นชิ้น

นายเดชฤทธิ์กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ส่งออกผลิตภัณฑ์ “SPARKLE” ไปยังประเทศกัมพูชา และลาว คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1-2% โดยคาดว่าในปี 2558 จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 5% จากนั้นภายใน 3-5 ปีจะเริ่มขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศที่ประชากรนิยมดื่มชาและกาแฟ เช่น พม่า เวียดนาม และจีน เป็นต้น





กำลังโหลดความคิดเห็น