“ฟูจิกรุ๊ป” วางเป้ารุกตลาดเออีซี คาดอีก 3 ปีสยายปีกคลุมทั้งหมด ด้วยกลยุทธ์ร่วมทุน ขณะที่ในไทยเน้นโหมต่างจังหวัดมากขึ้น เดินหน้ารุกเครื่องดื่มชาเขียวเปิดตัวมัทชะกรีนทีลาเต้พรีเมียม
นางรวิวัลย์ ทานาก้า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟูจิกรุ๊ป เปิดเผยว่า ปีนี้ทางกลุ่มจะลงทุนรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยในไทยจะเปิดร้านฟูจิประมาณ 5 สาขา เน้นต่างจังหวัด เช่น สุราษฎร์ธานี โคราช เป็นต้น ใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่เปิด 5 สาขา ปัจจุบันมีสาขาในไทย 85 แห่ง ลงทุนเฉลี่ย 50 ล้านบาทต่อสาขา ส่วนต่างประเทศมี 5 สาขา ลงทุน 70 ล้านบาทต่อสาขา ตั้งงบตลาดร้านอาหารปีนี้ 200 ล้านบาท
ส่วนแผนลงทุนต่างประเทศ ตั้งเป้าหมาย 3 ปีจากนี้จะขยายให้ครอบคลุมตลาดเออีซี ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทำตลาดมา 2 ปี มี 3 สาขาในพม่า และ 2 สาขาในลาว ปีนี้มีแผนจะเปิดเพิ่มที่พม่าอีก 2 สาขา ที่ลาวอีก 1 สาขา และประเทศใหม่คือ อินโดนีเซีย 1 สาขา กัมพูชา 2 สาขา มาเลเซีย 1 สาขา และที่ดูไบ 1 สาขา ส่วนเวียดนามคาดว่าอีก 2 ปีสามารถสรุปได้ กลยุทธ์หลักเน้นการร่วมทุนกับคนท้องถิ่น โดยฟูจิถือหุ้นใหญ่และบริหาร
ส่วนแบรนด์อื่นคือ โคโคอิจิบังยะ ในไทยมี 20 สาขา และมีแผนที่จะขยายตลาดเออีซีอีกเนื่องจากฟูจิตั้งบริษัทร่วมทุนกับทางแบรนด์โคโคฯ ที่ญี่ปุ่น เพื่อขยายตลาดในเออีซีโดยเฉพาะที่มีแล้ว มาเลเซีย 1 สาขา, สิงคโปร์ 3 สาขา
สำหรับธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียวฟูจิชา ซึ่งปัจจุบันมีรายได้รวม 400 ล้านบาท มีเฉพาะแบบขวด 3 รสชาติวางจำหน่ายทั่วไป ล่าสุดได้เปิดตัวชาเขียวฟูจิ มัทชะ กรีนที ลาเต้ แบบกล่องยูเอชทีรายแรกในไทย ราคา 35 บาท จับกลุ่มพรีเมียมจำหน่ายที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และร้านฟูจิ ลงทุนไปแล้วประมาณ 35 ล้านบาท ว่าจ้างทางบริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิต ตั้งเป้าหมายยอดขายเฉพาะตัวใหม่นี้ 1 ล้าน 2 แสนกล่องในครึ่งปีแรกนี้ หรือทั้งปีมียอดขาย 40 ล้านบาท ตั้งงบตลาดทั้งปีไว้ที่ 50 ล้านบาท ส่วนงบตลาดเครื่องดื่มทั้งปีรวมที่ 80 ล้านบาท ส่วนชาเขียวเดิมที่เป็นขวดตั้งเป้าโต 20%
บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรวมของฟูจิกรุ๊ปประมาณ 9,000 ล้านบาท คาดปีหน้าจะได้ 10,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วได้ 8,000 ล้านบาท โดยเฉลี่ยเติบโต 10% ตามเป้าหมายทุกปี โดยในไทยจะเติบโต 5-10% ส่วนต่างประเทศจะเติบโต 12-15% และตั้งเป้าหมายบางประเทศอาจจะมีสาขามากกว่าในไทยในอนาคตก็ได้ เช่น อินโดนีเซีย