กระทรวงพลังงานได้ฤกษ์ลงนาม SPRC เตรียมเปิดให้กระจายหุ้นกับประชาชนไม่น้อยกว่า 30% ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในไตรมาส 2ปีนี้ด้วยการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน ปตท.ลงมาเพื่อให้สอดรับกับนโยบายส่งเสริมการแข่งขันธุรกิจน้ำมันโดยเสรี
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการเป็นประธานลงนามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) สัญญาจัดสร้างและประกอบกิจการโรงกลั่นปิโตรเลียม ระหว่างกระทรวงพลังงาน กับบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ว่า ขณะนี้ได้ลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายส่งเสริมการแข่งขันของธุรกิจการกลั่นน้ำมันโดยเสรี โดยให้ บมจ.ปตท. ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน SPRC ลง เพื่อจำหน่ายหุ้นให้แก่ประชาชนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่น้อยกว่า 30%
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานมีนโยบายส่งเสริมการแข่งขันธุรกิจการกลั่นน้ำมันโดยเสรี จึงให้ ปตท.ลดสัดส่วนการถือหุ้นในกิจการโรงกลั่นน้ำมันของประเทศลง เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนเข้ามาเป็นเจ้าของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน แต่เนื่องจากในสัญญาเดิมกำหนดให้ ปตท.ยังคงถือหุ้นใน SPRC 25% ของทุนจดทะเบียน ภายหลังจากการจำหน่ายหุ้นและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว จึงจำเป็นต้องแก้ไขสัญญาประเด็นหลักคือ ให้มีการจำหน่ายหุ้นของ SPRC ให้แก่ประชาชนอย่างน้อย 30% ของทุนจดทะเบียน และจำหน่ายหุ้นให้แก่ประชาชนในโอกาสแรก (initial Public Offering : IPO) ภายใต้หลักการสำคัญคือ
) ไม่กำหนดอัตราส่วนการถือหุ้น เชฟรอน และ บริษัท ปตท.จากัด (มหาชน) ภายหลังการกระจายหุ้น แต่กำหนดให้มีการจำหน่ายหุ้น เชฟรอน ของ SPRC ให้แก่ประชาชนอย่างน้อย 30 %ของทุนจดทะเบียน
2) กำหนดระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นให้แก่ประชาชนในโอกาสแรก (initial Public Offering : IPO) ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 หรือภายใน 6 เดือนภายหลังจากวันที่ลงนามในสัญญา แล้วแต่ระยะเวลาใดจะสินสุดช้ากว่า