ASTVผู้จัดการรายวัน - “ทีเส็บ” เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ ตั้งเป้านักเดินทางทะลักเกิน 1 ล้านคน พร้อมทำรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท ปลื้มกลยุทธ์ “สร้าง-กระจาย-ยกระดับ” ช่วยเสริมการจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าในภูมิภาค ขานรับนโยบาย คสช. เร่งผลักดัน 5 เขตเศรษฐกิจพิเศษเกิดผลชัดเจน คาดปี 57 มีมูลค่าการค้าชายแดนกว่า 1 ล้านบาท
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า ในปี 2558 คาดว่าจะมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่า 1,036,300 คน โดยตั้งเป้ารายได้กว่า 106,780 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของธุรกิจกลุ่มการจัดนิทรรศการและการแสดงสินค้าตั้งเป้านักเดินทาง 190,400 คน พร้อมรายได้ 17,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดย “ทีเส็บ” ได้มีการเตรียมพร้อมและให้การสนับสนุนองค์กรและผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เริ่มดำเนินกลยุทธ์กระจายงานแสดงสินค้าในประเทศที่ได้รับความสำเร็จไปสู่ภูมิภาค ตลอดจนเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างเต็มที่
ในปีงบประมาณ 2558 ทีเส็บจะยังคงเร่งสนับสนุนและส่งเสริม ตลอดจนยกระดับการจัดนิทรรศการและการแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่องภายใต้กลยุทธ์ “สร้าง-กระจาย-ยกระดับ” (Invent-Clone-Upgrade) ตามโครงการ “ส่งเสริมและยกระดับงานแสดงสินค้าในประเทศ : Domestic Exhibition” โดยจะใช้การ “กระจาย” เป็นกลยุทธ์หลักในการเข้าสู่ยุคของเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเริ่มขึ้นภายในปี 2558
ตัวอย่างความสำเร็จของกลยุทธ์ “กระจาย” ที่ผ่านมา ได้แก่ การจัดงาน “Food & Hotelex 2014” ณ เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น ฮอลล์ เมื่อวันที่ 2-5 ต.ค. 56 ซึ่งถือเป็นการกระจายต่อยอดงานมาจากงาน “Thaifex” โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ซื้อรายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในสินค้าประเภทข้าว เทคโนโลยีการผลิตอาหาร อาหารทะเล เครื่องปรุงรสและอาหารสำเร็จรูป ขนมหวานและขนมขบเคี้ยว เป็นต้น
อีกหนึ่งงานที่เป็นผลสำเร็จคืองานสัมมนาสัญจรด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพืชพรรณ ผัก ผลไม้ ดอกไม้ และกล้วยไม้ “Horti Asia On The Move” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทีเส็บในการพัฒนาต่อยอดและนำไปจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่ใน 4 หัวเมืองหลักของประเทศไทย คือ นครศรีธรรมราช ราชบุรี อุดรธานี และเชียงใหม่
นอกจากนี้ยังมีงาน “มหกรรมชี้ช่องรวย” ซึ่งทีเส็บได้สนับสนุนงบประมาณการจัดงานขึ้นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และอุดรธานี เพื่อส่งเสริมให้ผู้จัดแสดงสินค้าไทยมีความสามารถในการทำตลาดในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศได้มากขึ้น โดยจัดให้มีกิจกรรมสร้างเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการ สร้างมาตรฐานในภาคงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ และยังต่อยอดไปถึงการเชื่อมความสัมพันธ์กับองค์กรการจัดแสดงสินค้าระดับโลกอย่าง Union des Foires Internationales (UFI)
นางศุภวรรณกล่าวด้วยว่า การกระจายงานแสดงสินค้าไปยังส่วนภูมิภาคโดยเฉพาะตามแนวตะเข็บชายแดนต่างๆ ยังเป็นไปตามแนวนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการผลักดันการค้าตามแนวชายแดนให้มีการเติบโตขึ้น โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2577 มีมูลค่า 561,800 ล้านบาท โดยฝ่ายไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าจากมูลค่าการส่งออกกว่า 340,000 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 200,000 ล้านบาท
“สำหรับด่านที่ได้รับการผลักดันให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในปี 2558 ประกอบด้วย 5 ด่าน ได้แก่ ด่านแม่สอด จ.ตาก ด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ด่านคลองใหญ่ จ.ตราด ด่านสะเดา จ.สงขลา และด่านจังหวัดมุกดาหาร โดยแต่ละด่านจะได้รับงบประมาณในการสนับสนุนและส่งเสริมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าหากการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษประสบผลสำเร็จจะทำให้การค้าชายแดนในปี 2558 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2557 ที่คาดว่าจะมีมูลค่าทางการค้า 1.05 ล้านบาท”
ทั้งนี้ “ทีเส็บ” ได้จัดสรรงบประมาณในการสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าประเภท “ยกระดับ” สูงสุด 500,000 บาท และสูงสุด 1,000,000 บาทสำหรับงานประเภท “สร้าง” และ “กระจาย” โดยยังมีงบประมาณพิเศษเพิ่มให้อีก 100,000 บาทกับงานประเภท “สร้าง” และ 200,000 บาทกับงานประเภท “กระจาย” หากเลือกจัดงานใน “ไมซ์ ซิตี้” อันหมายถึงเมืองที่ “ทีเส็บ” เล็งเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมในการจัดประชุมและนิทรรศการ เช่น กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น
