ทีวีดิจิตอลกรำศึกปี 2558 ค่ายใหญ่ทุ่มงบก้อนโตลุยลงทุนก่อสร้าง “สตูดิโอ-อุปกรณ์ไฮเทค” เพิ่มอีกเพียบ รองรับการขยายตัวและรายการ
นายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ช่อง ONE HD ในเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ กล่าวว่า ในปี 2558 คาดว่าธุรกิจทีวีดิจิตอลจะมีการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น และมั่นใจว่าแต่ละผู้ประกอบการคงจะมีแผนการลงทุนอย่างมากเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้องค์กรและช่องของตัวเอง
โดยในส่วนของช่อง ONE HD ได้เตรียมงบประมาณไว้มากกว่า 3,000 ล้านบาท ลงทุนในหลายส่วนรวมกัน เช่น การก่อสร้างสตูดิโอแห่งใหม่สำหรับช่อง ONE HD ตั้งอยู่หลังบริเวณอาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่อโศก นอกจากนั้นยังมีงบซื้อคอนเทนต์และการสร้างระบบต่างๆ รองรับการขยายตัวอีกด้วย
นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอนเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีหน้า (2558) เวิร์คพอยท์ฯ มีแผนลงทุนต่อเนื่องประมาณ 150 ล้านบาท ในการขยายสตูดิโอใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมในพื้นที่เดิม ซึ่งได้ลงทุนก่อสร้างตั้งแต่ปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยใช้งานได้ในปีหน้า นอกจากนั้นยังใช้งบอีกประมาณ 90 ล้านบาทในการลงทุนด้านอุปกรณ์สตูดิโออีก เพื่อให้สตูดิโอมีประสิทธิภาพมากขึ้นรองรับการขยายธุรกิจในปีหน้าที่จะเน้นการผลิตรายการเองเป็นหลัก
นางสาวจิตสุภา วัชรพล เจ้าหน้าที่บริหารสายงานกลยุทธ์และการตลาด บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี กล่าวว่า ปีนี้ช่องไทยรัฐทีวีได้รับการตอบรับอย่างดีจากฐานผู้ชมและเอเยนซีที่ลงโฆษณา จึงทำให้ต้องลงทุนเพิ่มในปี 2558
โดยบริษัทฯ ตั้งงบประมาณการลงทุนไว้ 1,500 ล้านบาท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตต่อไป โดยมีแผนที่จะก่อสร้างอาคารบรอดคาสติ้งคอมเพล็กซ์สูง 13 ชั้นแห่งใหม่ในรั้วไทยรัฐ มูลค่าการลงทุน 300 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นห้องส่งระบบ Virtual Studio ห้องปฏิบัติการการออกอากาศระบบ Robotic และการใช้ระบบ Media Asset Management เพิ่มขีดความสามารถในการผลิตรายการอินเฮาส์และสร้างรายการที่เป็นซิกเนเจอร์ของไทยรัฐทีวี
นอกจากนั้นเตรียมที่จะลงทุนด้านคอนเทนต์อีก 1,200 ล้านบาท เพิ่มจากปีแรกที่ใช้เพียง 1,000 ล้านบาท และงบการตลาดและการขายอีก 120 ล้านบาทเท่ากับในปีแรกนี้
นายภาณุชัย เหตระกูล ศรีนวลนัด กรรมการบริหาร บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด และผู้อำนวยการสถานี “new tv” ช่อง 18 เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทฯ จะเน้นการทำกลยุทธ์การตลาดมากขึ้นกว่าปีนี้ โดยจะเน้นการสร้างแบรนด์เอ็กเซอร์ไซส์เมนต์ ใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่สามารถเข้าสู่ทุกกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เน้นอีโมชันนัลมากขึ้น สร้างความน่าสนใจและประสบการณ์ร่วม
สอดคล้องไปกับการใช้งบประมาณกว่า 800 ล้านาท โดยแยกเป็นงบพัฒนาคอนเทนต์ 600 ล้านบาท งบการตลาด 100 ล้านบาท และงบพัฒนาระบบต่างๆ อีก 120 ล้านบาท เพื่อให้สตูดิโอมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล PPTV HD กล่าวว่า ปี 2558 บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนและพัฒนารายการให้แตกต่างอย่างต่อเนื่อง โดยระดับมาตรฐานรายการคุณภาพระดับพรีเมียมเหมือนเดิม ส่วนรายการที่ผลิตเองจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ พร้อมขยายพื้นที่ออฟฟิศและสตูดิโอเพิ่มเติม จากเดิม 2 แห่งเป็น 3-4 สตูดิโอภายในปี 2558 โดยแห่งใหม่จะมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 240 ตารางเมตร
สำหรับเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้คือ Orad ซึ่งเป็นระบบ Virtual Studio และ Software สำหรับการสร้าง Immersive Graphics ระบบ Touch Screen, 3D graphic Powerwall ที่สถานีโทรทัศน์ระดับโลกนิยมใช้มาพัฒนาในห้องส่ง เช่น สถานี ESPN, MSNBC (สหรัฐอเมริกา), Channel 4 (ประเทศอังกฤษ), RTL, DW TV (ประเทศเยอรมนี), Rai (ประเทศอิตาลี), TV3 (ประเทศสเปน), Fox (ประเทศไต้หวัน), ESPN (ประเทศสิงคโปร์), Phoenix (ประเทศฮ่องกง) นอกจากนี้ ยังนำระบบ Telematic
ที่เป็นกล้องถ่ายทำควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์อัตโนมัติมาใช้ในห้องส่ง ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ในสตูดิโอ และสามารถลงโปรแกรมไว้ล่วงหน้า เหมาะสำหรับรายการถ่ายทอดสดกีฬาระดับโลก และรายการข่าวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังวางระบบจัดเก็บ Data ที่ทันสมัยและการติดตั้งระบบไฟสตูดิโอเพิ่มเติมอีกด้วย
นอกจากเทคโนโลยีในห้องส่งแล้ว PPTV ยังนำเทคโนโลยีมาใช้กับการสร้าง Eyeball ในเครือข่ายพันธมิตร คือ จอ Digital Signage ซึ่งในปีนี้ติดตั้งไปแล้วกว่า 50 จอ ใน 15 จุดตามจังหวัดสำคัญๆ เช่น กทม. เชียงใหม่ หัวหิน ระยอง พัทยา ฯลฯ และในปีหน้าจะติดตั้งให้ครบ 250 จุด
รวมทั้งพัฒนาเว็บไซต์ใหม่เพื่อรองรับฐานคนรุ่นใหม่ที่ชอบชมรายการจาก Second Screen มากขึ้น ส่วนในเรื่องการขยายการรับชมผ่าน Platform ดาวเทียมและเคเบิลทีวี ได้จับมือกับเจริญเคเบิลทีวี และเคเบิลทีวีท้องถิ่นอิสระ 329 แห่งใน 30 จังหวัด เพื่อออกอากาศรายการเด่นๆ ของพีพีทีวี เช่น รายการมวยไทย ศึกราชดำเนินซูเปอร์ไฟท์ เป็นต้น
