ผู้ค้าน้ำมันรอผลการประชุม “กบง.” วันนี้ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนแปลงลดราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศหลังค่าการตลาดพุ่งทะลุระดับเกิน 2 บาทต่อลิตร โดยเฉพาะกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์
รายงานข่าวแจ้งว่า แม้ว่าขณะนี้ค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกของผู้ค้าโดยรวมเฉลี่ยระดับ 2 บาทกว่าต่อลิตรหลังจากที่ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงลดต่ำต่อเนื่อง แต่ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่โดยเฉพาะ บมจ.ปตท. และ บมจ.บางจากจะติดตามผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี รมว.พลังงานเป็นประธานในช่วงเย็นวันนี้ (9 ธ.ค.) ว่าจะมีการเรียกเก็บอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหรือไม่อย่างไรก่อนตัดสินใจเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมัน
“ค่าการตลาดดังกล่าวจะมีผลให้ราคาน้ำมันสามารถปรับลดลงได้เฉลี่ยทุกชนิดอย่างต่ำ 40-50 สตางค์ต่อลิตร แต่ก็อยู่ที่ กบง.ว่าจะมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะดีเซลที่รัฐอาจเรียกเก็บเพิ่ม” รายงานข่าวระบุ
รายงานข่าวจาก บมจ.ไทยออยล์แจ้งว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดตลาดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 57 เวสต์เทกซัสลดลง 2.75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 63.05 เหรียญต่อบาร์เรล เบรนต์ลดลง 2.88 เหรียญต่อบาร์เรล ปิดที่ 66.19 เหรียญต่อบาร์เรล ดูไบลดลง 0.84 เหรียญต่อบารเรล ปิดที่ 65.10 เหรียญต่อบาร์เรล โดยน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์นับเป็นการปิดในระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี
สำหรับน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ น้ำมันเบนซิน 95 ลดลง 1.10 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 75.52 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซลลดลง 1.09 เหรียญต่อบาร์เรล ปิดที่ 81.31 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากกว่าน้ำมันดิบดูไบทั้งเบนซินและดีเซลเนื่องจากความต้องการที่ยังคงลดต่ำลงในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะจากจีน
