“ทีวี ธันเดอร์” ประกาศแต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หวังนำเงินระดมทุนขยายกำลังการผลิตรายการโทรทัศน์และลงทุนในระบบการถ่ายทำรองรับทีวีดิจิตอล
นาง “ภัทรภร วรรณภิญโญ” ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVT ผู้ประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์และรายการบันเทิงชั้นนำซึ่งมีธุรกิจแบ่งเป็น 4 ลักษณะ ได้แก่ ธุรกิจโฆษณา ซึ่งเกิดจากการผลิตรายการโทรทัศน์ ธุรกิจรับจ้างผลิตรายการและจัดกิจกรรม ธุรกิจบริหารศิลปิน และธุรกิจผลิตและจำหน่ายพ็อกเกตบุค เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน ประกอบกับมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่จะสร้างบริษัทฯ ให้เป็นองค์กรผู้ผลิตคอนเทนต์ชั้นนำและผลิตรายการที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินระดมทุนที่ได้มาขยายกำลังการผลิตรายการโทรทัศน์และลงทุนในระบบการถ่ายทำ จากปัจจุบันที่มีสตูดิโอถ่ายทำรายการ 1 แห่งและอยู่ระหว่างการก่อสร้างสำหรับถ่ายทำรายการใหม่อีก 3 แห่งเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจทีวีดิจิตอลที่แต่เดิมมีเพียง 6 ช่อง เป็น 24 ช่องดิจิตอล
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท ทีวี ธันเดอร์ฯ อยู่ในระหว่างการเตรียมแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าน่าจะยื่นไฟลิ่งได้ภายในช่วงสิ้นปีนี้
“ทีวี ธันเดอร์ ถือเป็นบริษัทฯ ผลิตรายการโทรทัศน์ที่อยู่คู่กับวงการโทรทัศน์ไทยมานานกว่า 22 ปี ดังจะเห็นได้จากรายการหลายรายการที่ทางบริษัทฯ เป็นผู้คิดและผลิตออกมาสู่สายตาประชาชนซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้นการเปิดทีวีดิจิตอลที่มีถึง 24 ช่องจึงเป็นโอกาสสำคัญที่ส่งผลให้บริษัทฯ เล็งเห็นถืงช่องทางการเติบโต จึงเป็นที่มาของการเตรียมตัวเพื่อระดมทุนสำหรับการขยายตัวต่อไปในอนาคตของบริษัท และการก้าวเข้าสู่มาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน” นายสมภพ กล่าว
นายสมภพ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 200,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 800,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยทุนเรียกชำระแล้วเท่ากับ 150,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 600,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกจำนวน 200,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
ด้าน นาย “ภูษิต ไล้ทอง” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ครีเอทีส มีเดีย จำกัด หรือ CMED และบริษัท อีเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือ EM ซึ่งแต่ละบริษัทมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจที่แบ่งแยกอย่างชัดเจน โดยบริษัทฯ เน้นการผลิตและรับจ้างผลิตรายการผ่านการสร้างสรรค์รายการขึ้นมาใหม่ในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ รายการเกมโชว์ วาไรตี้โชว์ ละครดรามา ละครซิตคอม และทอล์กโชว์ ซึ่งปัจจุบันมีรายการที่ออกอากาศผ่านสื่อโทรทัศน์ เช่น รายการมาสเตอร์คีย์, เวทีแจ้งเกิด, ละครหลวงตามหาชน, กาละแมร์ และรายการแต๋ง เจี๊ยบ ดี้ วาไรตี้ 3 ฝ่าย เป็นต้น
นายภูษิต กล่าวอีกว่า CMED มีนโยบายในการดำเนินธุรกิจเพื่อผลิตและรับจ้างผลิตรายการโทรทัศน์ที่ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ เช่น รายการเทค มี เอาท์ (ไทยแลนด์) รายการแดนซ์ ยัว แฟท ออฟ และรายการไทยแลนด์ แดนซ์ นาว เป็นต้น ส่วน EM มีนโยบายในการดำเนินธุรกิจบริหารศิลปิน เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัทและ CMED โดยบริษัทฯ มีรายได้หลักจากค่าโฆษณาคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 85% ของรายได้ทั้งหมด และประมาณ 14% มาจากการให้บริการ ซึ่งเกิดจากการรับจ้างผลิตรายการโทรทัศน์ ส่วนอีกประมาณ 1% เป็นรายได้จากการบริหารงานศิลปินและการรับจ้างจัดงานอีเวนต์