“ทีเตชา” มั่นใจกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมยังมีกำลังซื้อสูง และต้องการสินค้าที่โดดเด่น นำเข้ากระเช้าของขวัญระดับพรีเมียมจากอังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกา พร้อมจัดพิมพ์แค็ตตาล็อก 5 หมื่นเล่มแจกลูกค้าตามห้างดัง คาดกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10%
นายจิรพงษ์ สกุลชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ที เต ชา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายชา “วิททาร์ด ออฟ เชลซี” (Whittard of Chelsea) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว “แคบทรี แอนด์ อีฟลิน” (Crabtree & Evelyn) และผู้บริหารร้านคาเฟ่ชา “ซิมพลี ดับเบิ้ลยู” (Simply W) และร้านอาหาร “โฟชอง” (FAUCHON) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ เตรียมนำเข้าสินค้าประเภทกระเช้าของขวัญมาทำตลาดในระดับพรีเมียม โดยคาดว่าจะสามารถทำยอดจำหน่ายได้ประมาณ 50 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนประมาณ 10%
สำหรับกระเช้าของขวัญนำเข้า ประกอบด้วย ชุดกระเช้าของขวัญแบรนด์ชาชื่อดังจากประเทศอังกฤษ “วิททาร์ด ออฟ เซลซี” (Whittard of Chelsea) ชุดของขวัญผลิตภัณฑ์อาบน้ำและบำรุงผิวจากประเทศอังกฤษภายใต้แบรนด์ “แครปทรี แอนด์ อีฟลิน” (Crabtree & Evelyn) กระเช้าของขวัญระดับพรีเมียมจากร้านอาหารและขนมหวานจากประเทศฝรั่งเศส ภายใต้แบรนด์ “โฟชอง” (FAUCHON) รวมทั้งชุดกระเช้าอาหารเช้าเพื่อสุขภาพแบรนด์ “จอร์แดนส์” (Jordans) และน้ำสลัด “ไบรอานาส” (Briannas) หลากหลายรสชาติจากประเทศสหรัฐอเมริกา
“กลุ่มสินค้าประเภทกระเช้าของขวัญถือเป็นหนึ่งในสินค้าหลักของบริษัทฯ โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดล้วนเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมที่มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นเฉพาะแบรนด์ ซึ่งเราเน้นสร้างจุดขายที่ความเอ็กซ์คลูซีฟของแต่ละแบรนด์ที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับอยู่แล้วว่าเป็นแบรนด์คุณภาพที่แตกต่างจากชุดกระเช้าของขวัญทั่วไปในตลาด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการจัดพิมพ์แค็ตตาล็อกของขวัญแบรนด์ต่างๆ จำนวน 5 หมื่นเล่ม เพื่อส่งให้ทางลูกค้า รวมทั้งมีการโปรโมตชุดกระเช้าของขวัญผ่านเว็บไซต์ www.simplywcafe.com, www.crabtree-evelyn.in.th และ www.fauchon.co.th ตลอดจนประชาสัมพันธ์ และแจกแค็ตตาล็อกเซตของขวัญตามหน้าร้านของแต่ละแบรนด์ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ประกอบด้วย เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล พระรามเก้า, สยามพารากอน และดิ เอ็มโพเรียม
นายจิรพงษ์ กล่าวด้วยว่า แม้ในปัจจุบันลูกค้าจะยังคงมีความระมัดระวังในด้านการใช้จ่ายอยู่มาก แต่จากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความชัดเจน และการกระตุ้นสภาพคล่องทางเศรษฐกิจจากทุกภาคส่วน น่าจะทำให้ตลาดผู้บริโภคกลับมากระเตื้องขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ และกลุ่มตลาดระดับพรีเมียมยังคงเป็นกลุ่มที่ยังคงมีกำลังซื้อ และมีความต้องการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพสูง และแตกต่างจากที่มีจำหน่ายทั่วไป