กลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานเปิดแถลงขู่พร้อมเคลื่อนไหวตอบโต้รัฐบาลหลังไฟเขียวเดินหน้าสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ขู่บิ๊กตู่ถ้าไม่เลิกหรือชะลอการชุมนุมจะกลับมาแน่นอนแต่ครั้งนี้จะต่อสู้ระหว่างทหารกับคนที่รักชาติ แจงพื้นที่เปิดสัมปทานพบหมกเม็ดเพิ่มแปลงใหม่ใกล้พื้นที่พิพาทไทย-กัมพูชา ส่อยอมรับพื้นที่พิพาท เอื้อกลุ่มทุนเดิมโกยขุมทรัพย์
น.ส.รสนา โตสิตระกูล แกนนำกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดแถลงข่าวถึงกรณีที่รัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 หลังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) รับทราบการดำเนินงานภายใต้กรอบที่กระทรวงพลังงานเสนอว่า การเปิดสัมปทานฯ ครั้งนี้เป็นการเร่งรีบโดยไม่ยอมรอสภาการปฏิรูปฯ ดำเนินการพิจารณาจุดนี้ก่อน และการอ้างถึงแหล่งปิโตรเลียมจะหมดภายใน 8 ปีหากไม่สำรวจเพิ่มเป็นการจงใจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดทั้งที่จริงเป็นเรื่องของแหล่งสัมปทานเดิมคือแหล่งเอราวัณ ของเชฟรอน และแหล่งบงกชของ บมจ.ปตท.สผ. จะหมดอายุลงในปี 2565-2566
ที่สำคัญสัมปทานรอบที่ 21 นี้มีการเพิ่มแปลงสำรวจที่เพิ่มขึ้นมาโดยเฉพาะแปลงใหม่ 1/57 ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่เป็นข้อพิพาทกับไทย-กัมพูชาซึ่งของเดิมไม่มีซึ่งพื้นที่นี้อยู่ ซึ่งแหล่งใหม่ยังใกล้แหล่งนงเยาวน์ และจัสมิน ซึ่งเป็นของบริษัทมูบาดาลา ปิโตรเลียม เครือของมูบาดาลาสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ซึ่งเป็นแหล่งที่ผลิตน้ำมันดิบ การให้พื้นที่นี้เกาะกับพื้นที่ใกล้เคียงกับมูบาดาลาจึงเป็นการตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการยอมรับพื้นที่พิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาหรือไม่
“เส้นที่เป็นไหล่ทวีปที่กัมพูชาตีมาเลาะเกาะกูด เส้นที่ไทยตีมาปี 2526 เป็นเส้นมัธยฐานระหว่างเกาะกูดกับเกาะกงว่าเป็นของไทยแต่เป็นประเด็นที่ยังไม่ได้แก้ไข แต่การเปิดสัมปทานตรงนี้เท่ากับการที่เราจะยอมรับว่าเป็นพื้นที่พิพาทไม่ใช่เป็นพื้นที่ทับซ้อนเป็นการวางหมากยอมรับให้ไทยยอมรับเส้นแบ่งเขตตรงนี้ใช่หรือไม่ และจงใจให้กับกลุ่มเก่าได้รับประโยชน์ตรงนี้หรือไม่ เราบอกเรามีของน้อยแต่บริษัทระดับใหญ่ๆ ทั้ง มูบาดาลา มีเชฟรอน เข้ามาสำรวจและผลิตทั้งนั้น” น.ส.รสนากล่าว
นายประสิทธิชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน กล่าวว่า จุดยืนของกลุ่มฯ ชัดเจนว่าจะเคลื่อนไหวหากรัฐบาลยังไม่ยอมหยุดหรือชะลอการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 เพื่อนำมาแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียมปี 2514 เพื่อให้ประชาชนคนไทยเข้าถึงแหล่งทรัพยากรของชาติอย่างแท้จริงไม่ใช่ไปตกอยู่กับกลุ่มทุนพลังงาน ดังนั้นแม้ว่าจะมีกฎอัยการศึกแต่จงอย่านำมาใช้กับประชาชนแบบผิดๆ เพราะหลักการควรนำไปใช้กับคนที่ทำลายความมั่นคงของชาติ แต่กลุ่มฯ เคลื่อนไหวกำลังทวงเอาอธิปไตยด้านพลังงานของชาติกลับมา
น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคและกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย กล่าวว่า เวลานี้คุณด่ารัฐบาลเก่าไว้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นราคาแอลพีจี การเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 วันนี้คุณเดินตามก้นของรัฐบาลเก่าจนหมดสิ้น ถ้ายังดื้อดึงไม่รอการปฏิรูปพลังงานจะเห็นการชุมนุมกลับมาอีก ซึ่งครั้งนี้เป็นระหว่างทหารกับคนที่รักชาติ