“เทสโก้ โลตัส” ทุ่มพันล้านบาทอัปเกรดธุรกิจชู “พลัส มอลล์” สู้ “เซ็นทรัล-เดอะมอลล์” ย่านบางใหญ่ เพิ่มพื้นที่เป็น 2.5 หมื่นตารางเมตร พร้อมสวนน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ หวังเป้าลูกค้า 1 ล้านรายต่อเดือนและสร้างทราฟฟิกเพิ่ม 20% เน้นจุดเด่นตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ากลุ่มครอบครัวได้ตรงจุด
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหารฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารธุรกิจค้าปลีก “เทสโก้ โลตัส” เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้บริหารพื้นที่ศูนย์การค้ารายใหญ่ของประเทศไทยด้วยขนาดพื้นที่ขายและพื้นที่เช่ารวม ตลอดจนพื้นที่ในกองทุนรวม TLGF มากกว่า 2 ล้านตารางเมตร ใน 5 รูปแบบ คือ ดีพาร์ตเมนต์สโตร์, ไฮเปอร์มาร์เกต, มาร์เกต, เอ็กซ์ตรา และเอ็กซ์เพรส รวมทั้งสิ้น 1.8 พันสาขาทั่วประเทศ โดยมีสาขาในรูปแบบของเอ็กซ์เพรสมากที่สุดคือประมาณ 1.4 พันสาขา
ล่าสุดบริษัทฯ ใช้งบประมาณมากกว่า 1 พันล้านบาทในการปรับรูปแบบของเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์ตร้า สาขาบางใหญ่ ถ.กาญจนาภิเษก จ.นนทบุรี ซึ่งเปิดบริการมาแล้ว 11 ปีให้เป็นในลักษณะชอปปิ้งมอลล์ ภายใต้ชื่อ “Plus Mall” (พลัส มอลล์) บนพื้นที่ 2.5 หมื่นตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ขายของเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์ตร้า 8 พันตารางเมตร พื้นที่ร้านค้าและบริการ 1.2 หมื่นตารางเมตร และพื้นที่โรงภาพยนตร์ 5 พันตารางเมตร รองรับที่จอดรถยนต์ 1.2 พันคัน โดยยังร่วมมือกับ “แดนเนรมิต” ดำเนินการก่อสร้างสวนน้ำกลางแจ้งบนพื้นที่ 700 ตารางเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2557
“การปรับพื้นที่ขาย เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์ตร้า สาขาบางใหญ่ จาก 1.2-1.3 หมื่นตารางเมตร เหลือเพียง 8 พันตารางเมตร แล้วเพิ่มพื้นที่ร้านอาหารและบริการอื่นๆ มากขึ้น เป็นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มครอบครัวในย่านจังหวัดนนทบุรีซึ่งมีการขยายตัวสูงมากขึ้นและมีไลฟ์สไตล์ที่ต้องการศูนย์การค้าที่มีร้านค้าและบริการที่ครบถ้วนในแห่งเดียว โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากถึง 1 ล้านคนต่อเดือน พร้อมเพิ่มทราฟฟิกมากขึ้นประมาณ 20%”
นายสมพงษ์กล่าวด้วยว่า โครงการ “พลัส มอลล์” บางใหญ่ ถือเป็นการปรับรูปแบบชอปปิ้งมอลล์ครั้งแรกของ “เทสโก้ โลตัส” ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยคำนึงถึงปัจจัยหลักคือทำเลที่ตั้งและความต้องการของลูกค้าซึ่งเป็นแหล่งชุมชนและที่พักอาศัยของคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงครอบคลุมพื้นที่ใกล้เคียงในรัศมี 20 กิโลเมตร โดยเน้นใช้พื้นที่ขนาด 1.5 หมื่นตารางเมตรขึ้นไป
“จุดเด่นที่สำคัญของโครงการคือทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ห่างไกลจากศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตีมอลล์อื่นๆ ทั้งในส่วนของโครงการเก่าคือ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ บางแค หรือโครงการใหม่อย่างเช็นทรัล เวสต์เกต ทั้งยังสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าแถบอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และใกล้เคียง ในการซื้อสินค้า รับประทานอาหาร รวมถึงชมภาพยนตร์ และอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เป็นหลัก”
อนึ่ง โครงการ “พลัส มอลล์” สาขาบางใหญ่ ใช้แนวคิด Food Fun and Family โดยเน้นลูกค้าเป้าหมายหลักคือกลุ่มครอบครัวที่มีวัตถุประสงค์ในการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าและบริการ ถือเป็นโครงการที่ 3 ของบริษัทฯ และใช้งบประมาณการลงทุนมากที่สุด หลังจากที่เปิดสาขาแรกคือสาขาอมตะนครเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ตามด้วยปรับปรุงสาขาศรีนครินทร์ด้วยงบประมาณ 150 ล้านบาท เมื่อประมาณต้นปี 2557 โดยคาดว่าในปี 2558 จะเริ่มเปิดดำเนินการโครงการ “พลัส มอลล์” สาขาที่ 4 ในต่างจังหวัดเป็นลำดับต่อไป