“ทรู” เปิดร้านรับสาวกโสม ซุ่มแผนรุกคอนเสิร์ตเอเชีย (ชมคลิป)

กระแส “เค-ป็อป” ยังแรงดี ! “เอสเอ็ม ทรู” รุกธุรกิจครบวงจร เผยปี 54 ตลาดรวมมีเพียง 20 ล้านบาท แต่กระโดดพรวดเป็น 350 ล้านบาทในปี 55-56 ส่วนปี 57 อาจลดลงเพราะสถานการณ์ไม่อำนวย เตรียมเปิดร้าน “เอสเอ็ม ทรู” ย่านสยามสแควร์ จำหน่ายสินค้าที่ระลึกเอาใจสาวกศิลปินในสังกัด

นางสาวศศิธร กุลอุดมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่าหลายๆ ฝ่ายจะวิจารณ์ว่ากระแสความนิยม “เค-ป็อป” ในบ้านเราเริ่มตกลงแล้ว แต่โดยส่วนตัวกลับคิดว่าวัยรุ่นไทยยังคงให้ความนิยมเหล่าศิลปินเกาหลีใต้เพียงแต่มีจำนวนเท่าเดิม ขณะที่ผู้เข้ามาดำเนินธุรกิจด้านนี้มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สังเกตได้จากการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งคอนเสิร์ต แฟนคลับ มีตติ้ง และอื่นๆ ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาซึ่งมีถึงปีละ 36 ครั้ง เฉลี่ย 3 ครั้งต่อ 1 เดือนซึ่งถือว่ามากเกินไป ส่วนในปี 2557 คาดว่าน่าจะลดเหลือเพียง 15 กิจกรรม โดยเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเพิ่งมีการจัดกิจกรรมไปเพียง 11 ครั้งเท่านั้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2556 ซึ่งมีถึง 21 ครั้ง เนื่องจากสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจที่ยังไม่อำนวยต่อการดำเนินธุรกิจ

กระแสความนิยม “เค-ป็อป” เริ่มเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2554 ธุรกิจต่างๆ นอกเหนือจากการจัดคอนเสิร์ตสามารถทำรายได้เพียง 20 ล้านบาท แต่ในปี 2555-56 ตลาดเติบโตมีมูลค่าสูงถึง 350 ล้านบาท ส่วนปี 2557 คาดว่าจะลดลงเหลือเพียง 200 ล้านบาท โดย “เอสเอ็ม ทรู” ยังคงจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดได้ด้วยส่วนแบ่ง 50%

“รายได้หลักของบริษัทฯ ประมาณ 60-70% เป็นการจัดคอนเสิร์ต เราจึงพยายามต่อยอดและพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ โดยเน้นความสำคัญในเรื่องการพัฒนาคอนเทนต์เพื่อป้อนให้ทีวีดิจิตอลซึ่งกำลังเป็นธุรกิจที่มาแรง เริ่มต้นด้วยการจัดรายการเรียลิตี้โชว์ EXO’S SHOWTIME เพื่อออกอากาศทางช่อง True4U ในวันที่ 21 ส.ค.ศกนี้”

ล่าสุด บริษัทฯ ใช้งบ 3 ล้านบาทปรับปรุงร้าน true move Square บริเวณสยามสแควร์ ซอย 2 โดยจะแบ่งพื้นที่ครึ่งหนึ่งคือชั้น 2-3 จากจำนวน 4 ชั้นให้เป็นร้าน “เอสเอ็ม ทรู” เพื่อจำหน่ายแผ่นซีดีและสินค้าที่ระลึกลิขสิทธิ์เกี่ยวกับศิลปินในสังกัด “เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์” รวมถึงการจองตั๋วคอนเสิร์ต ตลอดจนใช้เป็นพื้นที่ในการนำศิลปินมาพบกับแฟนคลับ และอื่นๆ

“ในเบื้องต้น เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเมนท์ กำหนดยอดขายว่าควรจะต้องทำให้ได้เดือนละ 3-4 ล้านบาท แต่หลังจากปรึกษากันอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงยังไม่กำหนดยอดขายในแต่ละเดือนอย่างชัดเจน เนื่องจากตลาดสินค้าประเภทนี้ในประเทศไทยมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวันที่บรรดาแฟนคลับและผู้บริโภคไม่นิยมซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ในขั้นต้นเราจึงจะพยายามทำยอดขายในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปสักระยะก่อนที่จะกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนภายหลัง”

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายว่าจะต่อยอดการดำเนินธุรกิจด้วยการเปิดตลาดต่างประเทศ เช่น พม่า อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ในการจัดคอนเสิร์ตศิลปินในสังกัด จากเดิมที่ “เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์” เป็นผู้จัดเพียงรายเดียว โดยหากได้รับการอนุมัติคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินงานได้ภายใน 3-5 ปี

นางสาวศศิธร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ เปิดดำเนินงานเมื่อปี 2555 เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ถือหุ้น 51% กับบริษัท เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้นำธุรกิจบันเทิงอันดับ 1 ของประเทศเกาหลีใต้ ถือหุ้น 49% โดยดำเนินธุรกิจจัดคอนเสิร์ต การเป็นตัวแทนบริหารจัดการศิลปิน (พรีเซ็นเตอร์) การจำหน่ายแผ่นซีดีและสินค้าลิขสิทธิ์ รวมถึงธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปินสังกัด “เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์” ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

“ปีแรกบริษัทฯ ทำรายได้ 200 ล้านบาท ส่วนปี 2556 รายได้เหลือ 150 ล้านบาท เพราะจำนวนการจัดคอนเสิร์ตไม่มากเท่าปีแรก ส่วนปี 2557 แม้ว่าสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจจะไม่ดี แต่คาดว่าจะสามารถรักษารายได้เท่ากับปีที่ผ่านมาคือ 150 ล้านบาท ล่าสุดวันที่ 13-14 ก.ย.ศกนี้ จะจัดให้มีคอนเสิร์ตของกลุ่มศิลปินบอยแบนด์ “เอ็กซ์โซ” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายชื่อ TrueMove H presents “EXO FROM EXOPLANET #1 THE LOST PLANET IN BANGKOK ณ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี โดยจะเปิดให้มีการจำหน่ายบัตรผ่าน Thai Ticket Mager ในวันเสาร์ที่ 2 ส.ค.ศกนี้”