โอกาสทองรับทีวีดิจิตอล เอเจนซี่ผันตัวสู่คอนเท้นท์โพรไวเดอร์ ล่าสุด"กรุ๊ปเอ็ม" จับมือนิเคอิ ส่งรายการ “Dawn of GAIA –ก้าวใหม่โลกธุรกิจ” ลงช่อง3SD ชิมลาง ปีหน้าใส่เกียร์ลุยเพิ่มอีก 3-4รายการ
นายรัฐกร สืบสุข เทรดดิ้ง พาร์ทเนอร์ กลุ่มบริษัท กรุ๊ปเอ็ม เปิดเผยว่า จากการที่ทีวีดิจิตอลออกอากาศแล้วนั้นส่งผลให้ปัจจุบันประเทศไทยมีช่องรายการรวมกว่า 55 ช่อง และมีรายการที่ออกอากาศสูงถึง 19,500 รายการ เช่น เกมโชว์, วาไรตี้โชว์ และทอล์กโชว์ 3,000 กว่ารายการ ข่าว,คุยข่าว 1,500 รายการ ละคร 1,000 รายการ และเรียลลิตี้โชว์ 150 รายการ เป็นต้น โดยส่วนใหญ่การแข่งขันจะเป็นรายการที่จับกลุ่มแมส ถือเป็นเรดโอเชี่ยน
ส่งผลให้กรุ๊ปเอ็มมีแผนก้าวสู่ความเป็นคอนเท้นท์โพรไวเดอร์เต็มตัวมากขึ้น จากเดิมที่ผ่านมาจะเป็นโมเดลที่ซื้อรายการหรือผลิตรายการตามโจทย์ของลูกค้า สู่รูปแบบการซื้อลิขสิทธ์รายการมาเป็นของตัวเอง และหารายได้จากโฆษณา โดยในปีนี้จะได้เห็นอย่างน้อยหนึ่งรายการ ซึ่งขอดูทิศทางของตลาดก่อน
“ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่กรุ๊ปเอ็มเข้าสู่ความเป็นคอนเท้นท์โพรไวเดอร์เต็มตัว ในการซื้อลิขสิทธ์รายการมาบริหารเอง โดยได้เจรจากับทางช่อง 3 เป็นหลัก รวมถึงทีวีดิจิตอลในช่องอื่นอีก 3-4 ช่อง ในการพูดคุยเกี่ยวกับคอนเท้นท์ลักษณะบลูโอเชียน ซึ่งรายการที่มีโอกาสนั้นได้แก่ รายการเฉพาะกลุ่ม สุขภาพ ท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ผู้ชาย และกีฬา ซึ่งในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะนำเสนอรายการสู่ทีวีดิจิตอลอีก 3-4 รายการ”
ล่าสุด ได้จับมือกับทางนิเคอิ ประเทศญี่ปุ่น นำรายการ Dawn of GAIA –ก้าวใหม่โลกธุรกิจ มาออกอากาศทางช่อง 3SD ทุกคืนวันอาทิตย์เวลา 23.00-24.00น. เริ่ม 6 ก.ค.ศกนี้ เป็นรายการสารคดีธุรกิจที่โดดเด่น
แนวทางการดำเนินงานของเอเจนซี่หลังจากนี้จะก้าวสู่ความเป็นคอนเท้นท์โพรไวเดอร์มากขึ้น โดยต้องดูสถานการณ์ของทีวีดิจิตอลด้วย โดยเฉพาะในเรื่องเรตติ้ง สำหรับกรุ๊ปเอ็มจะมุ่งเลือกซื้อลิขสิทธิ์รายการมาบริหารเองมากขึ้น จากปัจจุบันรายได้หลักของกรุ๊ปเอ็มมาจาก 2 ส่วนคือ 1.ดูแลงบโฆษณาในการเลือกใช้สื่อให้กับลูกค้า 2.คอนเท้นท์โพรไวเดอร์ จากเดิมในลักษณะรับจ้างผลิตรายการให้ลูกค้า รูปแบบแบรนด์เดทคอนเท้นท์ มาเป็นซอสซิ่งคอนเท้นท์ที่ต้องบริหารเวลาหารายได้เอง โดยในส่วนที่ 2 นี้ยังมีรายได้ที่น้อยมาก
ด้าน นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทยมีช่องรายการให้รับชมค่อนข้างหลากหลาย แต่รายการที่รับชมนั้นยังไม่หลากหลาย รายการส่วนใหญ่ตอบสนองความเป็นแมส เช่น บันเทิง และรายการข่าว และการที่ช่อง 3 มีช่องทางเพิ่มขึ้นอีก 3 ช่องในทีวีดิจิตอล ถือเป็นโอกาสที่ดีในการนำเสนอคอนเท้นท์รายการที่มีประโยชน์ จับกลุ่มเฉาะได้มากขึ้น
นายรัฐกร สืบสุข เทรดดิ้ง พาร์ทเนอร์ กลุ่มบริษัท กรุ๊ปเอ็ม เปิดเผยว่า จากการที่ทีวีดิจิตอลออกอากาศแล้วนั้นส่งผลให้ปัจจุบันประเทศไทยมีช่องรายการรวมกว่า 55 ช่อง และมีรายการที่ออกอากาศสูงถึง 19,500 รายการ เช่น เกมโชว์, วาไรตี้โชว์ และทอล์กโชว์ 3,000 กว่ารายการ ข่าว,คุยข่าว 1,500 รายการ ละคร 1,000 รายการ และเรียลลิตี้โชว์ 150 รายการ เป็นต้น โดยส่วนใหญ่การแข่งขันจะเป็นรายการที่จับกลุ่มแมส ถือเป็นเรดโอเชี่ยน
ส่งผลให้กรุ๊ปเอ็มมีแผนก้าวสู่ความเป็นคอนเท้นท์โพรไวเดอร์เต็มตัวมากขึ้น จากเดิมที่ผ่านมาจะเป็นโมเดลที่ซื้อรายการหรือผลิตรายการตามโจทย์ของลูกค้า สู่รูปแบบการซื้อลิขสิทธ์รายการมาเป็นของตัวเอง และหารายได้จากโฆษณา โดยในปีนี้จะได้เห็นอย่างน้อยหนึ่งรายการ ซึ่งขอดูทิศทางของตลาดก่อน
“ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่กรุ๊ปเอ็มเข้าสู่ความเป็นคอนเท้นท์โพรไวเดอร์เต็มตัว ในการซื้อลิขสิทธ์รายการมาบริหารเอง โดยได้เจรจากับทางช่อง 3 เป็นหลัก รวมถึงทีวีดิจิตอลในช่องอื่นอีก 3-4 ช่อง ในการพูดคุยเกี่ยวกับคอนเท้นท์ลักษณะบลูโอเชียน ซึ่งรายการที่มีโอกาสนั้นได้แก่ รายการเฉพาะกลุ่ม สุขภาพ ท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ผู้ชาย และกีฬา ซึ่งในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะนำเสนอรายการสู่ทีวีดิจิตอลอีก 3-4 รายการ”
ล่าสุด ได้จับมือกับทางนิเคอิ ประเทศญี่ปุ่น นำรายการ Dawn of GAIA –ก้าวใหม่โลกธุรกิจ มาออกอากาศทางช่อง 3SD ทุกคืนวันอาทิตย์เวลา 23.00-24.00น. เริ่ม 6 ก.ค.ศกนี้ เป็นรายการสารคดีธุรกิจที่โดดเด่น
แนวทางการดำเนินงานของเอเจนซี่หลังจากนี้จะก้าวสู่ความเป็นคอนเท้นท์โพรไวเดอร์มากขึ้น โดยต้องดูสถานการณ์ของทีวีดิจิตอลด้วย โดยเฉพาะในเรื่องเรตติ้ง สำหรับกรุ๊ปเอ็มจะมุ่งเลือกซื้อลิขสิทธิ์รายการมาบริหารเองมากขึ้น จากปัจจุบันรายได้หลักของกรุ๊ปเอ็มมาจาก 2 ส่วนคือ 1.ดูแลงบโฆษณาในการเลือกใช้สื่อให้กับลูกค้า 2.คอนเท้นท์โพรไวเดอร์ จากเดิมในลักษณะรับจ้างผลิตรายการให้ลูกค้า รูปแบบแบรนด์เดทคอนเท้นท์ มาเป็นซอสซิ่งคอนเท้นท์ที่ต้องบริหารเวลาหารายได้เอง โดยในส่วนที่ 2 นี้ยังมีรายได้ที่น้อยมาก
ด้าน นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทยมีช่องรายการให้รับชมค่อนข้างหลากหลาย แต่รายการที่รับชมนั้นยังไม่หลากหลาย รายการส่วนใหญ่ตอบสนองความเป็นแมส เช่น บันเทิง และรายการข่าว และการที่ช่อง 3 มีช่องทางเพิ่มขึ้นอีก 3 ช่องในทีวีดิจิตอล ถือเป็นโอกาสที่ดีในการนำเสนอคอนเท้นท์รายการที่มีประโยชน์ จับกลุ่มเฉาะได้มากขึ้น
