ปลัดอุตสาหกรรมร่อนหนังสือแจ้งเบรกเปิดประมูลศูนย์บริการร่วม หรือ One Stop Service ที่โคราช มูลค่ากว่า 194 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดประมูลวันที่ 30 มิ.ย.นี้ หลัง สตง.ร่อนหนังสือถึง “คสช.” ให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสตามข้อร้องเรียนจากข้าราชการกระทรวง
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่จะเข้าประกวดรับเหมาก่อสร้างสำนักงานศูนย์บริการร่วมของกระทรวงอุตสาหกรรม จ.นครราชสีมา หรือ One Stop Service วงเงินประมาณ 194.6 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดประมูล 30 มิ.ย.นี้ให้ชะลอออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากได้มีการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับมีผู้ร้องเรียนไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ตรวจสอบโครงการดังกล่าว
“ขณะนี้ได้ชะลอการเปิดประมูลก่อสร้างออกไปก่อนเพื่อให้เคลียร์ปัญหาถูกร้องเรียน ขณะเดียวกันจะตั้งกรรมการเพื่อดูแลเรื่องนี้ขึ้นโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างอาคารดังกล่าวเป็นการตั้งงบประมาณการลงทุนประจำปี 2557 อยู่แล้ว วงเงิน 194.6 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี” นายวิฑูรย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวได้ถูกข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรมทำหนังสือร้องเรียนไปยัง สตง. และล่าสุด สตง.ได้พิจารณาข้อร้องเรียนดังกล่าวแล้ว พร้อมทำหนังสือลงวันที่ 19 มิ.ย. แจ้งไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้มีการดำเนินการตรวจสอบและทบทวนโครงการก่อสร้างอาคารสร้าง One Stop Service จังหวัดนครราชสีมา วงเงิน 194.6 ล้านบาทต่อไป
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวผู้บริหารมีนโยบายที่จะย้ายหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค จ.นครราชสีมาอยู่รวมกันเพื่อทำเป็นเมืองอุตสาหกรรมให้เกิดขึ้น โดยหน่วยงานที่จะย้ายเข้ามาอยู่รวมกันจะมีประมาณ 12 หน่วยงาน เช่น อุตสาหกรรม จ.นครราชสีมา ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 2 สำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สถาบันอาหาร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ข้าราชการกระทรวงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าจุดที่ตั้งของโครงการดังกล่าวห่างไกลจากตัวเมืองเป็นระยะทางกว่า 35 กิโลเมตร เป็นอุปสรรคต่อนักลงทุนหรือผู้ประกอบการที่จะเข้าไปติดต่อ แถมอยู่ใกล้บ่อขยะมูลฝอยของเทศบาลตำบลสูงเนิน
นอกจากนี้ยังมีการระบุว่าเคยมีที่ดินจากเอกชนยกให้จำนวน 4 ไร่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมาอยู่แล้ว ห่างจากตัวเมืองเพียง 8 กิโลเมตร และอุตสาหกรรมจังหวัดเคยเสนอขออนุมัติจากรัฐมนตรีเพื่อก่อสร้างสำนักงานในวงเงินไม่ถึง 10 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ กลับมาอนุมัติงบดังกล่าวเพื่อสร้างสำนักงานที่อำเภอสูงเนินแทน