xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐกิจ-อากาศร้อน” ซัดเครื่องทำน้ำอุ่น “สตีเบล” ลุยตลาดแมสเพิ่มแชร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นเครื่องร้อน เจ้าตลาดบน “สตีเบลฯ” หวังกินรวบทุกเซกเมนต์ อัด 100 ล้านบาทเดินเกมการตลาดเต็มสูบ จัดหนักส่งไฟติ้งโมเดล 2 รุ่น ราคา 2,590-2,790 บาทเจาะตลาดแมส หวังชิงแชร์ 20% ให้ได้ในสิ้นปี ดันรายได้รวมโตอีก 20%

นายโรนัลด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นมูลค่า 2,000 ล้านบาท หรือมีความต้องการที่ 600,000 ยูนิตในปีที่ผ่านมา ปีนี้คาดการณ์ยากว่าจะมีอัตราการเติบโตได้มากแค่ไหน ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ทั้งกำลังซื้อ เศรษฐกิจ และสภาพอากาศ จากปกติจะเติบโต 10% เช่นในปีก่อน

ในส่วนของสตีเบลฯ ไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่ามียอดขายเติบโตขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ถือว่าสูงมาก ส่งผลให้รอบบัญชีในปี 57 ซึ่งผ่านมาได้ 9 เดือนนั้นมียอดขายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นจึงมองว่าทั้งปีน่าจะมีรายได้โตกว่า 20% มากกว่าแผนที่วางไว้ อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทพร้อมใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่ใช้ 20 ล้านบาท สำหรับทำกิจกรรมส่งเสริมการขายตลอดปี

ปีนี้สตีเบลฯ ก้าวสู่ปีที่ 90 จึงมีการจัดแคมเปญใหญ่เพื่อฉลองด้วย เช่น แคมเปญบอลโลก 2014 ลุ้นเที่ยวประเทศสเปน แชมป์เก่าบอลโลกในครั้งก่อน และในปีนี้บริษัทจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ 4-5 รุ่น ที่สำคัญปีนี้มีการเปิดตัวสินค้าเพื่อรุกตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นระดับแมสด้วย 2 โมเดล คือ DX 35E ราคา 2,590 บาท และ DX 45E ราคา 2,790 บาท ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยรุกตลาดนี้มาก่อน ปีนี้จะบุกตลาดต่างจังหวัดและเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ให้มากขึ้น ถึงสิ้นปีน่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดได้ 20% จากปัจจุบันสตีเบลฯ มีความแข็งแกร่งในตลาดลักชัวรี และตลาดกลางอยู่แล้ว ส่งผลให้สตีเบลฯ เป็นผู้นำในตลาดรวมเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยส่วนแบ่งที่ 25% ในปีที่ผ่านมา

“ถือเป็นครั้งแรกที่สตีเบลฯ เข้ามารุกในตลาดแมส จากที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในตลาดระดับกลางถึงบนแล้ว ส่วนแผนการรุกตลาดแมสนั้นจะเน้นเซกเมนต์ระดับราคาอยู่ที่ 2,000-3,000 บาทเท่านั้น โดยจะไม่เข้าไปรุกในระดับราคาที่ต่ำกว่านี้”

สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น แบ่งออกเป็น 3 ตลาดใหญ่คือ 1.ลักชัวรี มีสัดส่วน 5% ความต้องการอยู่ที่ 3.5 หมื่นเครื่อง และมีมูลค่า 125 ล้านบาท 2.แมส มีสัดส่วน 30-35% ความต้องการอยู่ที่ 2.5 แสนเครื่อง และมีมูลค่า 700 ล้านบาท และ 3.มิดเดิล 60%

นายโรนัลด์ กล่าวต่อว่า ตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ ภาพรวมรายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 15% และในแง่ยูนิตเติบโต 13% จากฐานปี 2012 รายได้อยู่ที่ 800 ล้านบาท และขายได้ 230,000 เครื่อง แบ่งออกเป็น 80% และ 20% ส่งออก หรือเฉพาะรายได้ในประเทศนั้น เดิมปีนี้ตั้งเป้ารายได้โต 11% และจำนวนยูนิตโต 15% แต่ไตรมาสแรกโตกว่า 40% ส่งผลให้ภาพรวมรายได้เฉพาะในประเทศ และรวมส่งออกจะมีอัตราการเติบโตถึง 20% เท่าๆ กัน

จากปัจจุบันสตีเบลฯ มีสินค้าอยู่ 3 กลุ่มหลักคือ 1.เครื่องทำน้ำอุ่น 2.เครื่องกรองน้ำ และ 3.เครื่องทำน้ำร้อนแบบต้ม จากฐานการผลิตในปีนี้อยู่ที่ 300,000 เครื่อง จากโรงงานที่อยุธยาที่เน้นผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก และอีก 20% ส่งออกไปยังประเทศในกลุ่ม APEC โดยมีไทยเป็นเฮดควอเตอร์ในการทำตลาดเหล่านี้


กำลังโหลดความคิดเห็น