xs
xsm
sm
md
lg

“เซ็นทรัล” ชูโมเดลเอ็มบาสซีลุยต่างจังหวัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เซ็นทรัลเอ็มบาสซี” พร้อมรบสมรภูมิค้าปลีกไฮลักชัวรี ดีเดย์ 8 พ.ค.นี้ ทุ่มงบ 100 ล้านบาทจัดงานวันเปิดตัวเดียว ปูพรมอีก 200 ล้านบาทต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์ แบ่งเปอร์เซ็นต์กับร้านค้า พร้อมดันโมเดลนี้ ขยายในต่างจังหวัดใหญ่

นายชาติ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ของเซ็นทรัลกรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนเปิดบริการโครงการเซ็นทรัลเอ็มบาสซี วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ล่าช้ากว่าเดิมเกือบเดือนกว่า โดยจะเปิดในส่วนของศูนย์การค้าก่อน จำนวน 8 ชั้น และที่จอดรถอีก 4 ชั้น พื้นที่เปิดส่วนแรกนี้รวม 100,000 ตารางเมตร ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท จัดงานเปิดตัววันที่ 8 พฤษภาคม และหลังจากนั้นจะใช้งบอีก 300 ล้านบาทในการทำตลาดโฆษณาประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งปี 2557 นี้ ซึ่งคาดว่าหลังจากเปิดบริการจะมีปริมาณลูกค้าเข้าหมุนเวียน 5-6 หมื่นคนต่อวัน เป็นชาวต่างชาติ 50%

อย่างไรก็ตาม งบประมาณก่อสร้างศูนย์การค้าไม่ได้บานปลายมากนัก แต่ส่วนของโรงแรมที่จะเปิดบริการประมาณปีหน้านั้นงบเดิมวางไว้ที่ 3,000 ล้านบาทอาจจะต้องมีการบานปลายบ้าง แต่ยังไม่ทราบมูลค่าที่ชัดเจน เนื่องจากต้องการพัฒนาให้ดีที่สุดจะเป็นโรงแรมปาร์คไฮแอทกรุงเทพ 6 ดาว ซึ่งมีเพียง 36 สาขาทั่วโลกเท่านั้น และเป็นแห่งแรกในไทย โดยที่มูลค่าเต็มของโครงการนี้ที่วางไว้เมื่อ 7 ปีที่แล้วที่เริ่มพัฒนาคือ 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าที่ดิน 6,000 ล้านบาท ค่าโครงสร้างอาคาร 7,000 ล้านบาท และเงินลงทุนตกแต่งศูนย์การค้าและของร้านค้าอีก 5,000 ล้านบาท รวมพื้นที่โครงการ 144,000 ตารางเมตร

ทั้งนี้ ทางกลุ่มเซ็นทรัลได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ในการให้เช่าพื้นที่ โดยใช้วิธีการแบ่งเปอร์เซ็นต์กับร้านค้าผู้เช่าตามสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ที่ตกลงกันแต่ละรายไปแล้วแต่กรณี คือมียอดขายเท่าใดก็แบ่งรายได้กันตามที่ตกลงไว้ ซึ่งน่าจะเป็นการดีและมีความเหมาะสมที่สุด อีกอย่างจะทำให้รู้ได้ว่าร้านค้าใดมียอดขายที่ดีร้านค้าใดมียอดขายไม่ดี แต่ยังมีบางส่วนที่ยังเป็นแบบจ่ายค่าเช่าบ้าง

ในส่วนของโรงหนัง จะเป็นของกลุ่มเอ็กเซกคิวทีฟซินีมาจากแคนาดาเข้ามาลงทุน ประมาณ 100 ล้านบาท โดยใช้แบรนด์ว่า ดิเอ็มบาสซี ดีโพลแมท สกรีน จำนวน 5 โรง พื้นที่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร คาดว่าราคาตั๋วประมาณ 1,000-1,500 บาทต่อที่นั่ง ซึ่งกลุ่มนี้จะมีธุรกิจที่ออสเตรเลีย เวียดนาม เป็นต้น

โครงการนี้จะเป็นจุดหมายใหม่แห่งสุดยอดลักชัวรีชอปปิ้งของเอเซีย ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย 26.7 ล้านคน ในปี 2556 สร้างเม็ดเงินมากกว่า 1.18 ล้านล้านบาท (ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มกราคม-กันยายน 2556) แต่ว่าคนเหล่านี้ใช้เงินในการชอปปิ้งเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย ซึ่งหวังว่าโครงการนี้จะช่วยเพิ่มยอดค่าใช้จ่ายในการอยู่ประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาตินี้ให้ทัดเทียมกับสิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น

สำหรับร้านค้าจะมีมากกว่า 200 แบรนด์ โดยมี 7 แบรนด์ที่จะเปิดตัวเป็นไอคอนนิคสโตร์แห่งแรกด้วยคือ Bottega Veneta, Chanel, Gucci, Hermes, Miu Miu, Prada และ Ralph Lauren นอกนั้นจะมี 20% ที่เป็นแบรนด์ใหม่ไม่เคยเปิดมาก่อนในไทย เช่น BCBG Max Azria, Christian Louboutin, Isabel Marant เป็นต้น และมีอีก 15% เป็นแบรนด์ที่มีแล้วในไทย แต่จะเป็นคอนเซ็ปต์สโตร์ใหม่

“เซ็นทรัลจะนำโมเดลเซ็นทรัลเอ็มบาสซีนี้มาขยายผลต่อในจังหวัดอื่นๆ ในไทยที่มีศักยภาพเพิ่มอีกด้วย ซึ่งคาดว่าอีก 2 ปีจะเห็นโครงการใหม่ได้” นายชาติ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น