“อาร์เอส” ปลื้มโชว์ผลประกอบการปี 2556 ทำสถิติใหม่สูงสุดนับตั้งแต่เปิดบริษัทมา เผยรายได้ทะลุ 3.4 พันล้านบาท เติบโตกว่า 20% ขณะที่โกยกำไรเฉียด 400 ล้านบาท เติบโตกว่า 30% ชี้ “ธุรกิจสื่อ” ยังเป็นดาวรุ่งทำยอดเกือบ 2 พันล้านบาท เติบโตกว่า 60% ระบุโดยเฉพาะ “สื่อทีวีดาวเทียม” เป็นพระเอกมาแรงต่อเนื่องดันค่าโฆษณากระฉูด พร้อมประกาศจ่ายปันผลรวม 35 สตางค์ต่อหุ้น
นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลประกอบการปี 2556 สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมากว่า 30 ปี โดยมีรายได้รวม 3,483.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 611.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 21.3% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 394.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 110.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 38.8 % โดยมีรายได้จากธุรกิจสื่อเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ในปี 2556 มีรายได้จากธุรกิจสื่ออยู่ที่ 1,986.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 793.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 66% เป็นผลมาจากการเติบโตของทีวีดาวเทียมทั้ง 5 ช่อง ได้แก่ ช่อง 8, ช่อง 2 สตาร์แม็กซ์, ช่องสบายดี ทีวี, ช่องยู ชาแนล และช่องซัน ชาแนล สามารถขายพื้นที่โฆษณาในรูปแบบต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการพัฒนาคุณภาพของคอนเทนต์ การปรับเปลี่ยนผังรายการและรูปแบบรายการเพื่อให้เป็นที่น่าสนใจและดึงดูดให้มีผู้ชมรายการเพิ่มขึ้น โดยรายการที่ได้รับความนิยม ได้แก่ รายการ “บันเทิง 108”, “ปากโป้ง” และละครใหม่ที่ออกอากาศในปี 2556 ได้แก่ “กากับหงส์”, “ข้าวนอกนา”, “นางมาร”, “วิวาห์ป่าช้าแตก” และ “ผู้ชนะสิบทิศ” จากช่อง 8 รายการ “บันเทิงมื้อเที่ยง” และ “สดชื่น” จากช่อง “สบายดีทีวี” และ รายการ “คนดังนั่งเคลียร์” และ “Hi เอนเตอร์เทน” จากช่อง 2 สตาร์แม็กซ์ เป็นต้น
รายได้จากธุรกิจสื่อยังมาจากผลการดำเนินงานของ 3 คลื่นวิทยุ ได้แก่ COOL Fahrenheit 93 ที่ครองเรตติ้งอันดับ 1 ในกลุ่ม Easy Listening ต่อเนื่องปีที่ 12, คลื่นสบายดี เรดิโอ 88.5 และ COOL Celsius 91.5 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการปรับขึ้นราคาโฆษณาของคลื่น COOL Fahrenheit 93 ที่มีอัตราการใช้พื้นที่โฆษณาอยู่ในระดับสูง และมีรายได้จากการจัดกิจกรรมต่างๆของคลื่น รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายไปสู่คลื่นเพลงสากล โดยบริษัทฯ ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ฟังมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการฟังผ่านทางวิทยุ สื่อออนไลน์ และแอปพลิเคชัน อีกทั้งการจัดกิจกรรมต่างๆของแต่ละคลื่นที่ผ่านมายังคงได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าและผู้ฟังรายการเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ธุรกิจสื่อยังมีรายได้จากการบริหารคอนเทนต์ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลลาลีกา สเปน การแข่งขันฟุตบอลถ้วย Copa del Rey และการแข่งขันนัดเหย้าของทีมชาติสเปนในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2014 โดยมีรายได้หลักมาจากการขายกล่อง “Sun Box” รายได้จากการขายโฆษณา และรายได้จากการต่อยอดลิขสิทธิ์ (Sublicensing) อีกด้วย
สำหรับรายได้จากธุรกิจเพลงอยู่ที่ 777.2 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 12% เนื่องจากการลดลงของรายได้ดาวน์โหลดเพลง แต่อย่างไรก็ดีในปีที่ผ่านมาเพลง “รักต้องเปิด แน่นอก” ศิลปิน 3.2.1 feat. ใบเตย อาร์สยาม สร้างปรากฏการณ์ความนิยมอย่างสูง โดยมียอด View จาก YouTube กว่า 80 ล้านวิว ยอดฟังจาก Deezer ยอดดาวน์โหลดจากทุกค่ายมือถือ และ iTunes ในระดับสูงทุกช่องทาง
ส่วนรายได้จากธุรกิจโชว์บิซอยู่ที่ 692.6 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 3% โดยมีคอนเสิร์ตและกิจกรรมหลักในปี 2556 ได้แก่ “RS Meeting Concert Return 2013” “Short Charge Shock Rock Return Concert” “Kamikaze K Fight Concert” “ลูกทุ่งเฟสติวัล ปี 3” และ “สบายดีสัญจร ปี 4” เป็นต้น
จากการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานภาพทางการเงินของอาร์เอสมีความแข็งแกร่ง จึงมีข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้นอาร์เอส โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติการจ่ายเงินปันผลอีก 20 สตางค์ต่อหุ้น รวมกับเงินปันผลระหว่างกาล 15 สตางค์ต่อหุ้น เป็นทั้งหมด 35 สตางค์ต่อหุ้น โดยมติในการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวยังจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 ในวันที่ 24 เมษายน 2557
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2557 เพื่อตอบโจทย์การเป็น Media Revolutionist 2014 ผู้ปฏิวัติวงการสื่อมุ่งพัฒนาคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ เข้าถึงได้ง่าย หลากหลาย เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย และ Synergy กันระหว่างกลุ่มทุกธุรกิจทั้งคอนเทนต์และมีเดีย โดยตั้งเป้าปีนี้จะมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท
นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลประกอบการปี 2556 สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมากว่า 30 ปี โดยมีรายได้รวม 3,483.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 611.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 21.3% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 394.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 110.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 38.8 % โดยมีรายได้จากธุรกิจสื่อเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ในปี 2556 มีรายได้จากธุรกิจสื่ออยู่ที่ 1,986.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 793.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 66% เป็นผลมาจากการเติบโตของทีวีดาวเทียมทั้ง 5 ช่อง ได้แก่ ช่อง 8, ช่อง 2 สตาร์แม็กซ์, ช่องสบายดี ทีวี, ช่องยู ชาแนล และช่องซัน ชาแนล สามารถขายพื้นที่โฆษณาในรูปแบบต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการพัฒนาคุณภาพของคอนเทนต์ การปรับเปลี่ยนผังรายการและรูปแบบรายการเพื่อให้เป็นที่น่าสนใจและดึงดูดให้มีผู้ชมรายการเพิ่มขึ้น โดยรายการที่ได้รับความนิยม ได้แก่ รายการ “บันเทิง 108”, “ปากโป้ง” และละครใหม่ที่ออกอากาศในปี 2556 ได้แก่ “กากับหงส์”, “ข้าวนอกนา”, “นางมาร”, “วิวาห์ป่าช้าแตก” และ “ผู้ชนะสิบทิศ” จากช่อง 8 รายการ “บันเทิงมื้อเที่ยง” และ “สดชื่น” จากช่อง “สบายดีทีวี” และ รายการ “คนดังนั่งเคลียร์” และ “Hi เอนเตอร์เทน” จากช่อง 2 สตาร์แม็กซ์ เป็นต้น
รายได้จากธุรกิจสื่อยังมาจากผลการดำเนินงานของ 3 คลื่นวิทยุ ได้แก่ COOL Fahrenheit 93 ที่ครองเรตติ้งอันดับ 1 ในกลุ่ม Easy Listening ต่อเนื่องปีที่ 12, คลื่นสบายดี เรดิโอ 88.5 และ COOL Celsius 91.5 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการปรับขึ้นราคาโฆษณาของคลื่น COOL Fahrenheit 93 ที่มีอัตราการใช้พื้นที่โฆษณาอยู่ในระดับสูง และมีรายได้จากการจัดกิจกรรมต่างๆของคลื่น รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายไปสู่คลื่นเพลงสากล โดยบริษัทฯ ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ฟังมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการฟังผ่านทางวิทยุ สื่อออนไลน์ และแอปพลิเคชัน อีกทั้งการจัดกิจกรรมต่างๆของแต่ละคลื่นที่ผ่านมายังคงได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าและผู้ฟังรายการเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ธุรกิจสื่อยังมีรายได้จากการบริหารคอนเทนต์ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลลาลีกา สเปน การแข่งขันฟุตบอลถ้วย Copa del Rey และการแข่งขันนัดเหย้าของทีมชาติสเปนในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2014 โดยมีรายได้หลักมาจากการขายกล่อง “Sun Box” รายได้จากการขายโฆษณา และรายได้จากการต่อยอดลิขสิทธิ์ (Sublicensing) อีกด้วย
สำหรับรายได้จากธุรกิจเพลงอยู่ที่ 777.2 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 12% เนื่องจากการลดลงของรายได้ดาวน์โหลดเพลง แต่อย่างไรก็ดีในปีที่ผ่านมาเพลง “รักต้องเปิด แน่นอก” ศิลปิน 3.2.1 feat. ใบเตย อาร์สยาม สร้างปรากฏการณ์ความนิยมอย่างสูง โดยมียอด View จาก YouTube กว่า 80 ล้านวิว ยอดฟังจาก Deezer ยอดดาวน์โหลดจากทุกค่ายมือถือ และ iTunes ในระดับสูงทุกช่องทาง
ส่วนรายได้จากธุรกิจโชว์บิซอยู่ที่ 692.6 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 3% โดยมีคอนเสิร์ตและกิจกรรมหลักในปี 2556 ได้แก่ “RS Meeting Concert Return 2013” “Short Charge Shock Rock Return Concert” “Kamikaze K Fight Concert” “ลูกทุ่งเฟสติวัล ปี 3” และ “สบายดีสัญจร ปี 4” เป็นต้น
จากการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานภาพทางการเงินของอาร์เอสมีความแข็งแกร่ง จึงมีข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้นอาร์เอส โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติการจ่ายเงินปันผลอีก 20 สตางค์ต่อหุ้น รวมกับเงินปันผลระหว่างกาล 15 สตางค์ต่อหุ้น เป็นทั้งหมด 35 สตางค์ต่อหุ้น โดยมติในการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวยังจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 ในวันที่ 24 เมษายน 2557
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2557 เพื่อตอบโจทย์การเป็น Media Revolutionist 2014 ผู้ปฏิวัติวงการสื่อมุ่งพัฒนาคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ เข้าถึงได้ง่าย หลากหลาย เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย และ Synergy กันระหว่างกลุ่มทุกธุรกิจทั้งคอนเทนต์และมีเดีย โดยตั้งเป้าปีนี้จะมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท