“วีฟิตเนสโซไซตี้” ทุ่มงบ 600 ล้านบาทผุดสาขาเพิ่มปีนี้ หวังรองรับตลาดที่เติบโตดี พร้อมเพิ่มฐานสมาชิกเป็น 10,000 รายในปีนี้
นายฐนกฤตย์ สุรกิจบวร ผู้บริหาร วี ฟิตเนส โซไซตี้ เปิดเผยว่า ตลาดรวมฟิตเนสในขณะนี้อาจจะอยู่ในภาวะทรงตัวไม่ได้เติบโตมากนัก เพราะว่าผู้บริโภคอาจจะยังคงเกิดอาการกลัวหรือช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแคลิฟอร์เนียว้าวเอ็กซ์พีเรียนซ์ ที่ถูกฟ้องล้มละลายไปแล้ว และขาดความเชื่อมั่นในธุรกิจนี้ แต่ก็ยังเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากหากวัดจากจำนวนประชากรคนไทยแล้วเพิ่งจะมีเพียง 1% เท่านั้นที่เป็นสมาชิกฟิตเนสทั้งระบบที่มีผู้ให้บริการฟิตเนสรวมมากว่า 1,000 ราย โดยมีมูลค่าตลาดรวมที่ 7,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 10-20% ต่อปี อีกทั้งคนไทยก็หันมาให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพมากขึ้นด้วย ซึ่งพบว่าหลังจากที่บริษัทฯ เปิดบริการไปแล้ว 2 สาขาเมื่อปีที่แล้วได้รับการตอบรับอย่างดี
โดยปีที่แล้วได้เปิดบริการ 2 สาขา คือที่เมเจอร์ซีนีเพล็กซปิ์นเกล้า และเจ อเวนิวทองหล่อ เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีฐานสมาชิก 2 สาขานี้รวมกว่า 4,000 รายจากกลุ่มเป้าหมายที่รักการออกกำลังกาย ซึ่งเราเน้นการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และมีการจัดแบ่งแพกเกจการให้บริการที่หลากหลายเป็นที่ต้องการของลูกค้าอย่างดี และย้ำภาพลักษณ์ว่าเป็นธุรกิจของคนไทย บริหารโดยคนไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง โดยปี 2557 นี้ตั้งเป้าหมายจะเปิดบริการวีฟิตเนสโซไซตี้ในไทยให้ได้รวม 10 สาขา ซึ่งขนาดพื้นที่เฉลี่ย 1,000-4,000 ตารางเมตรต่อสาขา จากปัจจุบันเปิดแล้ว 3 แห่ง ล่าสุดคือที่เอสพลานาดรัชดาภิเษก ด้วยงบลงทุน 120 ล้านบาท สาขานี้รองรับผู้ใช้บริการได้ 800-1,000 คน ส่วนอีก 7 สาขาคาดว่าจะทยอยเปิดบริการ เช่นที่สาขาวีโฮเต็ล และเมเจอร์ รังสิต เป็นต้น รวมงบลงทุนปีนี้ประมาณ 700 ล้านบาท
ส่วนเป้าหมายรายได้รวมหลังจากที่บริษัทเปิดครบทั้ง 7 สาขาในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทขึ้นไป มียอดสมาชิกเพิ่มเป็น 10,000 รายจาก 4,000 รายในปัจจุบัน และตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3-5 ปีจากนี้ วี ฟิตเนส โซไซตี้จะเป็นแบรนด์ฟิตเนสของคนไทยที่มีลูกค้ากล่าวถึงในแง่ดีมากที่สุด
นายฐนกฤตย์ สุรกิจบวร ผู้บริหาร วี ฟิตเนส โซไซตี้ เปิดเผยว่า ตลาดรวมฟิตเนสในขณะนี้อาจจะอยู่ในภาวะทรงตัวไม่ได้เติบโตมากนัก เพราะว่าผู้บริโภคอาจจะยังคงเกิดอาการกลัวหรือช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแคลิฟอร์เนียว้าวเอ็กซ์พีเรียนซ์ ที่ถูกฟ้องล้มละลายไปแล้ว และขาดความเชื่อมั่นในธุรกิจนี้ แต่ก็ยังเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากหากวัดจากจำนวนประชากรคนไทยแล้วเพิ่งจะมีเพียง 1% เท่านั้นที่เป็นสมาชิกฟิตเนสทั้งระบบที่มีผู้ให้บริการฟิตเนสรวมมากว่า 1,000 ราย โดยมีมูลค่าตลาดรวมที่ 7,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 10-20% ต่อปี อีกทั้งคนไทยก็หันมาให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพมากขึ้นด้วย ซึ่งพบว่าหลังจากที่บริษัทฯ เปิดบริการไปแล้ว 2 สาขาเมื่อปีที่แล้วได้รับการตอบรับอย่างดี
โดยปีที่แล้วได้เปิดบริการ 2 สาขา คือที่เมเจอร์ซีนีเพล็กซปิ์นเกล้า และเจ อเวนิวทองหล่อ เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีฐานสมาชิก 2 สาขานี้รวมกว่า 4,000 รายจากกลุ่มเป้าหมายที่รักการออกกำลังกาย ซึ่งเราเน้นการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และมีการจัดแบ่งแพกเกจการให้บริการที่หลากหลายเป็นที่ต้องการของลูกค้าอย่างดี และย้ำภาพลักษณ์ว่าเป็นธุรกิจของคนไทย บริหารโดยคนไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง โดยปี 2557 นี้ตั้งเป้าหมายจะเปิดบริการวีฟิตเนสโซไซตี้ในไทยให้ได้รวม 10 สาขา ซึ่งขนาดพื้นที่เฉลี่ย 1,000-4,000 ตารางเมตรต่อสาขา จากปัจจุบันเปิดแล้ว 3 แห่ง ล่าสุดคือที่เอสพลานาดรัชดาภิเษก ด้วยงบลงทุน 120 ล้านบาท สาขานี้รองรับผู้ใช้บริการได้ 800-1,000 คน ส่วนอีก 7 สาขาคาดว่าจะทยอยเปิดบริการ เช่นที่สาขาวีโฮเต็ล และเมเจอร์ รังสิต เป็นต้น รวมงบลงทุนปีนี้ประมาณ 700 ล้านบาท
ส่วนเป้าหมายรายได้รวมหลังจากที่บริษัทเปิดครบทั้ง 7 สาขาในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทขึ้นไป มียอดสมาชิกเพิ่มเป็น 10,000 รายจาก 4,000 รายในปัจจุบัน และตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3-5 ปีจากนี้ วี ฟิตเนส โซไซตี้จะเป็นแบรนด์ฟิตเนสของคนไทยที่มีลูกค้ากล่าวถึงในแง่ดีมากที่สุด
