xs
xsm
sm
md
lg

“โพสต์ฯ” จ่อถือหุ้นไทยทีวี “เจ๊ติ๋ม” ดึงร่วมผลิตข่าวหลัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จิราธิวัฒน์” เล็งถือหุ้นใน “ไทยทีวี” ของเจ๊ติ๋ม เจ้าของทีวีพูลที่ชนะการประมูลดิจิตอลทีวี 2 ช่อง เบื้องต้นจับมือผลิตรายการข่าว 6 ชั่วโมงแบบเอ็กซ์คลูซีฟป้อนไทยทีวี หลังเลิกแล้วกับช่อง 5 และช่อง 11 ด้านเจ๊ติ๋มมั่นใจช่องบันเทิง THV ชนกับวิกหนองแขมกับวิกหมอชิตได้สบาย หวังรายได้ 10,000 ล้านบาทใน 5 ปี

นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัท โพสต์ทีวี จำกัด ในเครือโพสต์ พับลิชชิ่ง ได้เข้าร่วมประมูลดิจิตอลทีวีประเภทช่องข่าว แต่ก็แพ้การประมูล จึงได้ปรับแนวทางหันมาจับมือร่วมกับทางบริษัท ไทย ทีวี จำกัด ที่เป็นผู้ชนะการประมูลมา 2 ช่อง ซึ่งเป็นของกลุ่มทีวีพูล

โดยความร่วมมือครั้งนี้ทางโพสต์ฯ จะเป็นผู้ผลิตรายการข่าวแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้ ถือเป็นการผนวกจุดแข็งของทั้งสองบริษัท ที่ทางโพสต์ฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการข่าว ส่วนทางทีวีพูลมีความแข็งแกร่งด้านข่าวบันเทิง และเชื่อว่าจะส่งผลให้ทางโพสต์ฯ มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยในอนาคตจะมีการต่อยอดความร่วมมือกันมากขึ้น รวมไปถึงการเข้าไปร่วมถือหุ้นในไทยทีวีในอนาคตด้วยเช่นกัน ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการเจรจากันบ้างแล้ว

นายศุภกรณ์ เวชชาชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพสต์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า โพสต์ทีวีจะเข้ามาผลิตรายการข่าวให้ทางไทยทีวีเพียงช่องเดียว โดยได้ยกเลิกผลิตรายการข่าวในช่องต่างๆ ออกไปหมดแล้ว เนื่องจากหมดสัญญาลง ไม่ว่าจะเป็นทางช่อง 11 หรือช่อง 5

ส่วนรายการอื่นๆ ที่ไม่ใช่ข่าวยังผลิตอยู่ แต่จะให้ความสำคัญต่อการผลิตรายการข่าวป้อนให้กับไทยทีวีเป็นหลัก ภายใต้รูปแบบความร่วมมือ โดยทางโพสต์ฯ จะดูแลด้านการผลิตข่าวทั้งหมดที่มีสัดส่วนประมาณ 20% ของผังรายการรวมทั้งหมด คิดเป็นประมาณ 6 ชั่วโมงต่อวัน พร้อมทั้งทางโพสต์ฯ จะเป็นผู้หาโฆษณาและแบ่งรายได้ร่วมกัน ขณะที่การร่วมมือกันครั้งนี้มีสัญญา 5 ปี

ปัจจุบันโพสต์ พับลิชชิ่ง มีรายได้ 2,000 กว่าล้านบาท แบ่งสัดส่วนประมาณมากกว่า 90% มาจากสิ่งพิมพ์ และที่เหลือไม่ถึง 10% มาจากรายการทีวีราว 100 ล้านบาท โดยมองว่าจากความร่วมมือกับทางไทยทีวีครั้งนี้ ภายใน 5 ปีข้างหน้ากลุ่มรายได้จากทีวีจะมีสัดส่วน 40% ของรายได้รวมทั้งหมด

ด้านนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือเจ๊ติ๋ม เจ้าของทีวีพูลในนามของประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทย ทีวี จำกัด กล่าวว่า การจับมือกับทางโพสต์ทีวีครั้งนี้ จะทำให้ช่องไทยทีวี หรือ THV มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ทีวีพูลมีความแข็งแกร่งด้านข่าวบันเทิงอยู่แล้ว มั่นใจว่าจะทำให้ช่อง THV มีความโดดเด่น และสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำช่องดิจิตอลทีวีได้ภายใน 5 ปีหลังจากนี้ พร้อมรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งในตลาดมองว่าคู่แข่งหลักมีอยู่ 2 ราย คือ ช่อง 3 และช่อง 7

โดยปีนี้ยังมีการลงทุนด้านคอนเทนต์เพิ่มเติมอีกกว่า 400-500 ล้านบาทสำหรับผลิตละคร โดยได้จับมือกับทางนายนิรัตติศัย กัลย์จาฤก ในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับกันตนา ที่นายนิรัตติศัยมีกองละครกว่า 8 กอง ร่วมผลิตละครใน 6 หมวด หมวดละ 3 เรื่อง ลงทั้งทางช่องTHV และช่องเด็กอีก 1 ช่อง คือช่อง LOCA มั่นใจว่าในปีแรกทั้งสองช่องจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ คาดว่ารายได้หลักๆ จะมาจากช่อง THV ภายใต้เรตราคาใกล้เคียงกับช่องฟรีทีวีในปัจจุบัน คือราว 2 แสนบาทต่อนาที ส่วนรายการอื่นๆ ที่เคยผลิตป้อนให้ทางฟรีทีวีได้ยกเลิกหมดแล้วตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงช่องเคเบิลทีวีอีก 2 ช่องจะปิดตัวลงในวันที่ 31 มี.ค.นี้ โดยจะมาโฟกัสเพียง 2 ช่องดิจิตอลทีวีเท่านั้น คือช่อง THV และช่องLOCA ซึ่งใน 5 ปีข้างหน้าเตรียมนำไทยทีวีเข้าตลาดหลักทรัพย์ พร้อมมองหาพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม จะมีการเปิดตัวช่อง THV อย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มี.ค.นี้ และพร้อมออกอากาศในระบบดิจิตอลในวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งผู้ชมสามารถรับชมช่อง THV ผ่านทางจานพีเอสไอ และกลุ่มบิ๊กโฟว์ได้ทางช่อง 7 และ 27 ส่วนกล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวีจะสามารถรับชมได้ทางช่อง 17 ทั้งนี้ ช่อง THV ถือเป็นช่องข่าวที่วางสัดส่วนรายการข่าวไว้ 20% ข่าวบันเทิง 30% และอีก 50% เป็นรายการวาไรตี จับกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ คนทำงาน แม่บ้าน และนักธุรกิจ อายุ 18-55 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น