ยุคทองคอนเทนต์ รับดิจิตอลทีวี “เจเอสแอล” โดนรุมจีบผลิตคอนเทนต์ ล่าสุดเตรียมผลิตรายการป้อน 9 ช่องดิจิตอลทีวี รวม 25-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ คาดดันรายได้ปีนี้โต 60% สู่รายได้ 1,400 ล้านบาท พร้อมแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ปีหน้าหาทุนผลิตคอนเทนต์รับมือเพิ่ม
นางรติวัลคุ์ ศรีมงคลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด เปิดเผยว่า หลังการเกิดดิจิตอลทีวี 24 ช่องใหม่ที่จะเห็นในปีนี้ ถือเป็นโอกาสทองของผู้ผลิตคอนเทนต์โพรวายเดอร์อย่างมาก เพราะต่างต้องการคอนเทนต์ที่ดีมีคุณภาพเพื่อสร้างเรตติ้งและฐานผู้ชมในแต่ละช่อง ล่าสุดทางบริษัทได้เจรจากับ 9 ช่องดิจิตอลทีวี ได้แก่ 1. ไทยรัฐทีวี 2. อมรินทร์ทีวี 3. พีพีทีวี 4. วอยซ์ทีวี 5. กลุ่มทรู 6. เครือเนชั่น 7. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ 8. ช่อง 9 อสมท และ 9. ช่อง 7 เพื่อผลิตคอนเทนต์รายการต่างๆ ป้อนให้ รวมกว่า 25-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในลักษณะรับจ้างผลิตรายการ ตามโจทย์ที่ช่องทีวีดิจิตอลต่างๆ กำหนดตามคอนเซ็ปต์ของแต่ละช่อง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการลงทุนผลิตแต่ละรายการนั้น เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นของการออกอากาศ ดังนั้นในแง่ต้นทุนการผลิตและราคาโฆษณายังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ทั้งนี้ หลังจากได้มีการส่งสัญญาณครอบคลุมผู้ชมทั่วประเทศในอัตรา 75% ขึ้นไปแล้ว การผลิตรายการต่างๆ นั้นจะพิจารณาในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป เช่น การบริหารเวลาโฆษณาร่วมกัน เป็นต้น
ด้านนายวัชระ แวววุฒินันท์ ประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเตรียมตัวรองรับการเติบโตของธุรกิจคอนเทนต์โพรวายเดอร์ในยุคดิจิตอลทีวีนี้ ทางบริษัทได้วางแผนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2558 ที่จะถึงนี้ด้วย เพื่อระดมทุนมาขยายการลงทุนและการผลิตรายการให้ดิจิตอลทีวีได้มากยิ่งขึ้น จากโอกาสที่มองว่าจะเติบโตสูงในอนาคต โดยคาดว่าในปีหน้าจะมีรายได้ก่อนเข้าตลาดที่ 2,000 ล้านบาท
จากแผนการดำเนินงานในปีนี้ที่มีการผลิตรายการทางฟรีทีวี 8 รายการ รวม 13 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ คาดทำรายได้ 640 ล้านบาท, การผลิตรายการป้อนช่องทีวีดิจิตอล รวมรายได้ 240 ล้านบาท, กลุ่มบริหารคอนเทนต์ร่วมกับแบรนด์สินค้า 300 ล้านบาท, ธุรกิจโชว์บิซ 34 ล้านบาท และการรับจ้างผลิตละครให้ช่อง 7 รวม 2 เรื่อง 170 ล้านบาท
รวมถึงการจัดตั้งบริษัท คอนเทนท์ แล็บ จำกัด ขึ้นมาบริหารจัดการและพัฒนาคอนเทนต์โดยเฉพาะ โดยรายการที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้คือเรียลิตีโชว์ “มาร์เชียล วอริเออร์” และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายรายการเพื่อผลิตในประเทศ พร้อมส่งออกฟอร์แมตรายการไปจำหน่ายในต่างประเทศ นอกจากนี้ได้ต่อยอดการบริหารศิลปิน จากรายการ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน” โดยนำผู้ชนะการแข่งขันมาพัฒนาเป็นศิลปินต่อไป มั่นใจว่าในสิ้นปี 2557 นี้บริษัทจะมีรายได้รวม 1,400 ล้านบาท เติบโต 60% จากปีก่อนทำรายได้ 900 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตที่เกิดขึ้นมาจากการรับจ้างผลิตคอนเทนต์ให้ดิจิตอลทีวีเป็นหลัก
นางรติวัลคุ์ ศรีมงคลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด เปิดเผยว่า หลังการเกิดดิจิตอลทีวี 24 ช่องใหม่ที่จะเห็นในปีนี้ ถือเป็นโอกาสทองของผู้ผลิตคอนเทนต์โพรวายเดอร์อย่างมาก เพราะต่างต้องการคอนเทนต์ที่ดีมีคุณภาพเพื่อสร้างเรตติ้งและฐานผู้ชมในแต่ละช่อง ล่าสุดทางบริษัทได้เจรจากับ 9 ช่องดิจิตอลทีวี ได้แก่ 1. ไทยรัฐทีวี 2. อมรินทร์ทีวี 3. พีพีทีวี 4. วอยซ์ทีวี 5. กลุ่มทรู 6. เครือเนชั่น 7. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ 8. ช่อง 9 อสมท และ 9. ช่อง 7 เพื่อผลิตคอนเทนต์รายการต่างๆ ป้อนให้ รวมกว่า 25-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในลักษณะรับจ้างผลิตรายการ ตามโจทย์ที่ช่องทีวีดิจิตอลต่างๆ กำหนดตามคอนเซ็ปต์ของแต่ละช่อง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการลงทุนผลิตแต่ละรายการนั้น เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นของการออกอากาศ ดังนั้นในแง่ต้นทุนการผลิตและราคาโฆษณายังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ทั้งนี้ หลังจากได้มีการส่งสัญญาณครอบคลุมผู้ชมทั่วประเทศในอัตรา 75% ขึ้นไปแล้ว การผลิตรายการต่างๆ นั้นจะพิจารณาในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป เช่น การบริหารเวลาโฆษณาร่วมกัน เป็นต้น
ด้านนายวัชระ แวววุฒินันท์ ประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเตรียมตัวรองรับการเติบโตของธุรกิจคอนเทนต์โพรวายเดอร์ในยุคดิจิตอลทีวีนี้ ทางบริษัทได้วางแผนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2558 ที่จะถึงนี้ด้วย เพื่อระดมทุนมาขยายการลงทุนและการผลิตรายการให้ดิจิตอลทีวีได้มากยิ่งขึ้น จากโอกาสที่มองว่าจะเติบโตสูงในอนาคต โดยคาดว่าในปีหน้าจะมีรายได้ก่อนเข้าตลาดที่ 2,000 ล้านบาท
จากแผนการดำเนินงานในปีนี้ที่มีการผลิตรายการทางฟรีทีวี 8 รายการ รวม 13 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ คาดทำรายได้ 640 ล้านบาท, การผลิตรายการป้อนช่องทีวีดิจิตอล รวมรายได้ 240 ล้านบาท, กลุ่มบริหารคอนเทนต์ร่วมกับแบรนด์สินค้า 300 ล้านบาท, ธุรกิจโชว์บิซ 34 ล้านบาท และการรับจ้างผลิตละครให้ช่อง 7 รวม 2 เรื่อง 170 ล้านบาท
รวมถึงการจัดตั้งบริษัท คอนเทนท์ แล็บ จำกัด ขึ้นมาบริหารจัดการและพัฒนาคอนเทนต์โดยเฉพาะ โดยรายการที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้คือเรียลิตีโชว์ “มาร์เชียล วอริเออร์” และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายรายการเพื่อผลิตในประเทศ พร้อมส่งออกฟอร์แมตรายการไปจำหน่ายในต่างประเทศ นอกจากนี้ได้ต่อยอดการบริหารศิลปิน จากรายการ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน” โดยนำผู้ชนะการแข่งขันมาพัฒนาเป็นศิลปินต่อไป มั่นใจว่าในสิ้นปี 2557 นี้บริษัทจะมีรายได้รวม 1,400 ล้านบาท เติบโต 60% จากปีก่อนทำรายได้ 900 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตที่เกิดขึ้นมาจากการรับจ้างผลิตคอนเทนต์ให้ดิจิตอลทีวีเป็นหลัก