นายรติ พันธุ์ทวี ผู้อำนวยการบริหาร ประจำสำนักงานกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า จากเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่ แบรนด์ซันโว จนถึงปัจจุบัน พบว่ามียอดขายไปแล้วกว่า 32 ล้านขวด หรือมีรายได้กว่า 400 ล้านบาท อยู่ในอันดับสามของตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมายังพบว่ายอดขายเป็นไปตามปกติ
“ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากแผนการทำตลาด รสชาติของผลิตภัณฑ์ รวมถึงช่องทางจำหน่ายและการกระจายสินค้า โดยในปีหน้าบริษัทจะยังคงเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น หลังจากที่พบว่า 9 เดือนที่ผ่านมาซันโวเป็นที่รู้จักของตลาดแล้ว ถือเป็นความสำเร็จอย่างมาก ส่วนหนึ่งมาจากการใช้พรีเซ็นเตอร์ คือ บัวขาว ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้ดี ซึ่ง 3 ปีแรกนี้ถือเป็นช่วงของการสร้างแบรนด์ ต้องใช้งบไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท” นายรติกล่าว
โดยในปีหน้าจะใช้งบการตลาดราว 100 ล้านบาทสำหรับทำตลาดตลอดทั้งปี พร้อมโฟกัสช่องทางจำหน่ายและการกระจายสินค้าให้มากขึ้น และอาจจะมีการเพิ่มรสชาติใหม่เข้ามาด้วย ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ มั่นใจว่ายอดขายจะโตขึ้นอีก 15-20% หรือมีส่วนแบ่งเป็นอันดับสองของตลาดที่ 15-20% รองจากอันดับหนึ่งคือ สปอนเซอร์ที่มีแชร์อยู่ 70% ในปัจจุบัน และอันดับสองคือ เอ็มสปอร์ต มีแชร์ 12-15% ในปัจจุบันเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการชุมนุมที่เกิดขึ้นราว 1 เดือนที่ผ่านมายังไม่พบว่าจะส่งผลกระทบหรือส่งผลบวกต่อตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่แต่อย่างใด โดยในแง่ยอดขายยังเติบโตไปตามปกติ ซึ่งทั้งปีนี้มองว่าตลาดรวมเครื่องดื่มเกลือแร่มูลค่า 4,400 ล้านบาท น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-12% เช่นปีที่ผ่านๆ มา โดยอัตราการเติบโตจะอยู่ที่กลุ่มแบบขวดแก้ว ซึ่งมีมูลค่าตลาดถึง 4,050 ล้านบาทของตลาดรวมทั้งหมด
ล่าสุดทางบริษัทได้จัดทำปฏิทิน เซ็กซี่ สปอร์ตตี้ เกิร์ล ประจำปี 2557 ขึ้น จำนวนหลายหมื่นเล่ม และจะเริ่มแคมเปญแจกปฏิทินดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเวลานี้เป็นต้นไป เบื้องต้นที่วางไว้คือ ผู้บริโภคสามารถนำฝาซันโว 10 ฝามาแลกปฏิทินนี้ได้ 1 เล่ม เชื่อว่าช่วงเวลา 1-2 เดือนของการจัดแคมเปญนี้จะทำให้ซันโวมียอดขายสูงจากปกติอีกราว 15% ได้
โดยนางแบบสาวสวยที่มาร่วมถ่ายปฏิทินครั้งนี้ คือ “กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์” “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” “โบว์ โชติมา นวคุณากร” “หยก ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์” และ “โม อมีนา พินิจ”
ส่วนสถานการณ์ในปีหน้ามองว่าการแข่งขันของตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่จะรุนแรงขึ้น เนื่องจากคาดว่าจะมีผู้เล่นใหม่เข้ามาอีก 1-2 ราย เป็นแบรนด์ไทย และการแข่งขันจะมุ่งไปในเรื่องของกิจกรรมทางการตลาด และคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก ส่วนโปรโมชันแบบเครื่องดื่มชาที่ทำกันไม่ใช่แนวทางการทำตลาดของเครื่องดื่มเกลือแร่ที่จะทำได้ เพราะสินค้าต่อหน่วยไม่สูงเท่า เฉลี่ยมีราคาแค่ 10 บาทต่อขวดเท่านั้น รวมถึงโปรโมชันลดราคาก็จะไม่มีให้เห็นเช่นกัน