xs
xsm
sm
md
lg

เรกูเลเตอร์ถก 3 การไฟฟ้า 17 ธ.ค. ดึงโรงงาน-ห้างฯ ลดใช้ไฟ 200 เมกะวัตต์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เรกูเลเตอร์จับมือ 3 การไฟฟ้านำร่องโครงการลดใช้ไฟฟ้าช่วงความต้องการสูงสุดหรือ Thailand Demand Response ทดสอบระบบนำร่องก๊าซพม่าหยุด 25 ธ.ค. 56-8 ม.ค. 57 ก่อนใช้รับมือใหญ่ เม.ย. 57 เตรียมพร้อมหารือ 17 ธ.ค.นี้เพื่อเปิดให้ผู้ใช้ไฟรายใหญ่เป้าหมาย 46 รายลงทะเบียนร่วมดำเนินการลดใช้ระหว่าง 25-27 ธ.ค.หวังลดใช้ไฟ 200 เมกะวัตต์ ลดค่า Ft 0.05 สตางค์ต่อหน่วย

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า เรกูเลเตอร์ร่วมกับ 3 การไฟฟ้าที่ประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะดำเนินโครงการนำร่องลดความต้องการใช้ไฟฟ้าช่วงสูงสุด หรือ Thailand Demand Responseซึ่งเป็นการขอความร่วมมือจากผู้ใช้ไฟรายใหญ่ลดใช้ไฟช่วงความต้องการสูงสุดหรือพีก ในช่วงแหล่งก๊าซธรรมชาติเยตากุน ประเทศเมียนมาร์หยุดระหว่าง 25 ธ.ค. 56-8 ม.ค. 57 โดยจะมีการประชุมเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ไฟรายใหญ่วันที่ 17 ธ.ค.นี้

“โครงการนำร่องฯ นี้มีเป้าหมายหลักเพื่อทดสอบความพร้อมที่จะนำกลไก Demand Response มาใช้บริหารจัดการในช่วงเวลาความต้องการไฟฟ้าสูงสุดวิกฤตในช่วงเดือนเมษายน และเดือนมิถุนายน 2557 ต่อไป ซึ่งแนวทางลดใช้ไฟก็เคยทำมาแล้วในช่วงก๊าซฯ หยุดจ่ายเมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมา 46 ราย โดยกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อาคารธุรกิจ และห้างสรรพสินค้าที่เราจะเปิดให้ร่วมลงทะเบียนร่วมดำเนินการ” นายดิเรกกล่าว

นางพัลลภา เรืองรอง กรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า การดำเนินโครงการนำร่องฯ นี้มีเป้าหมายที่จะลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าประมาณ 200 เมกะวัตต์ระหว่างวันที่ 25-27 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 13.00-20.00 น. เนื่องจากเป็นช่วง Peak Period ของระบบไฟฟ้าของประเทศ อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าหากสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ประมาณ 4.2 ล้านหน่วยตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จะทำให้ประหยัดการใช้นำมันเตาได้ประมาณ 25.2 ล้านบาท ซึ่งหมายถึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ Ft ในงวดถัดไปจะลดลงได้ประมาณ 0.05 สตางค์ต่อหน่วย

“การดำเนินการต่อไปเรกูเลเตอร์ จะพัฒนารูปแบบของโครงการ Demand Response ให้สามารถจูงใจผู้ใช้ไฟฟ้าให้ลดการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ด้วยการให้เงินชดเชยบางส่วนจากค่าFt ที่ประหยัดได้ เพื่อให้โครงการ Demand Response เป็นกลไกถาวรในการแก้ไขวิกฤต และลดต้นทุนค่าไฟฟ้า รวมทั้งชะลอการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ต่อไป” นางพัลลภากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น