“เพ้ง” เผย ปตท.กำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดคนที่ตัดไฟศูนย์เอ็นเนอร์ยีคอมเพล็กซ์ซึ่งเป็นที่ตั้งกระทรวงพลังงาน และบริษัทในเครือ ปตท. ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อการทำงานทั่วโลกเสียหาย คาดจันทร์นี้จะเข้ากลับทำงานได้ปกติ พร้อมยกระดับความมั่นคงพลังงานทั้งระบบรับมือม็อบ
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงพลังงานว่า บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานทั้งภาพถ่ายและวิดีโอจากกรณีที่มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) นำรถของ กฟน.มาตัดไฟฟ้าที่บริเวณตึกเอ็นเนอร์ยีคอมเพล็กซ์ ที่ทำการกระทรวงพลังงานและบริษัท ปตท.รวมทั้งบริษัทในเครือ ระหว่างที่มีการชุมนุมหน้ากระทรวงพลังงานช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดความเสียหาย โดยจะดำเนินการฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญา
“การที่ไฟฟ้าดับมีผลกระทบต่อระบบคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อระบบธุีกิจต่างๆ ทั้งการดูแลธุรกิจผลิตและสำรวจปิโตรเลียมทั่วโลกของ ปตท.สผ. ซึ่งจำเป็นต้องใช้การติดตามแบบต่อเนื่อง หรือ เรียลไทม์ ซึ่งคงจะต้องรวบรวมผลเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งหากประเมินมูลค่าและความเสี่ยงเสร็จสิ้น คาดว่าในวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคมนี้ ทั้งกระทรวงพลังงานและหน่วยงานต่างๆ คงกลับไปทำงานตามปกติได้” นายพงษ์ศักดิกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้ยกระดับการดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน ทั้งระบบไฟฟ้า และเชื้อเพลิง เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง โดยกฟผ. ยืนยันว่า กฟผ.จะไม่มีการดับไฟ หรือหยุดผลิตตามโรงไฟฟ้าต่างๆ เพราะสหภาพฯ มีความเข้าใจด้านกฎหมายความมั่นคงและการบริการประชาชนเป็นอย่างดี ส่วนกรณีที่การชุมนุมก่อนหน้านี้ ระบุว่า มีข่าวว่าสหภาพฯ จะปิดโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี จากการสอบสวนของ กฟผ.พบว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
