ส.อ.ท.-สภาหอฯ-สมาคมธนาคารไทย เตรียมประสานประชุม “กกร.” วาระด่วนพรุ่งนี้ (27 พ.ย.) เพื่อเรียกร้อง “การเมือง” ให้หันหน้าเจรจากันยุติปัญหาหลังวิตกม็อบเริ่มยึดสถานที่ราชการ หวั่นบานปลายหนักซ้ำรอยยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ฉุด ศก.ดิ่งเหว เอกชนประสานเสียงทางออก “ยุบสภา”
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย เพื่อที่จะประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. วาระด่วนในวันพรุ่งนี้ (27พ.ย.) เพื่อแสดงจุดยืนถึงความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทยที่เริ่มเข้าสู่ภาวะตึงเครียด ซึ่งเอกชนต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันเพื่อทำให้ประเทศกลับสู่ภาวะปกติ
“เรากำลังประสานกันอยู่ แต่แนวคิดในการนำเสนอถึงการหาทางออกนั้นยังไม่ตกผลึกเพราะที่คุยกันเบื้องต้นเฉพาะในส่วนของ ส.อ.ท.เองก็ยอมรับว่ามีความเห็นต่างกัน เช่นกรณียุบสภา ที่ส่วนใหญ่เห็นว่าจะเป็นทางออกสุดท้ายที่ดีสุดแต่บางฝ่ายก็เห็นต่าง ซึ่งจริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องของการเมืองที่จะต้องคิดเองแต่เอกชนคงขอแค่ให้ทุกฝ่ายหันหน้าคุยกันเท่านั้น ซึ่งเวลานี้การที่ผู้ชุมนุมไปปิดสถานที่ราชการทำให้การปฏิบัติงานมีปัญหา เช่นกรมศุลกากร จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางการค้าและการลงทุนที่ไม่ได้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและการปิดสถานที่ต่างๆ เริ่มทำให้เอกชนกังวลมากขึ้นกลัวจะซ้ำรอยที่ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และท่าเรือเช่นอดีตที่เกิดขึ้น” นายพยุงศักดิ์กล่าว
นายวัลลภ วิตนากร รอง ส.อ.ท.กล่าวว่า ต้องการให้ฝ่ายการเมืองถอยกันคนละก้าว เจรจากันเพื่อสร้างความปรองดอง ภาครัฐสามารถประเมินสถานการณ์ได้ หากมีเหตุรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลน่าจะพิจารณาคืนอำนาจให้ประชาชนโดยการยุบสภา และเปิดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะห่วงว่าจะกระทบการท่องเที่ยวที่ขณะนี้เป็นช่วงไฮซีซัน และยังทำให้ผู้ผลิตไทยต้องเสียโอกาสในการรับคำสั่งซื้อสินค้าจากผู้ซื้อต่างประเทศที่จะซื้อสินค้าไว้ขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วย
นายพรศิลป์ พัชรินตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า กกร.จะมีการประชุมวันที่ 27 พ.ย.เป็นวาระพิเศษ เพื่อที่จะหารือถึงแนวทางและข้อเสนอแนะต่อปัญหาทางการเมืองไทยที่ขณะนี้เอกชนวิตกมากขึ้น โดยทางออกที่ดีสุดที่เอกชนเห็นคือการยุบสภาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่การเมืองจะตัดสินใจอย่างไร แต่เอกชนต้องการให้ปัญหายุติโดยเร็วก่อนที่จะบานปลาย
