ดังกิ้นโดนัทซุ่มผุดโมเดลใหม่ปีหน้า มั่นใจตลาดโดนัทในไทยยังเติบโตดี เดือนหน้าผุดสาขาใหม่อีก 6 แห่งรวด
นายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลเด้น โดนัท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านดังกิ้นโดนัท ในเครือบริษัท มัดแมน จำกัด เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯ เตรียมที่จะเปิดร้านดังกิ้นโดนัทในคอนเซ็ปต์ใหม่ที่เป็นโดนัทเบเกอรี คาเฟ่ มีรายการอาหารที่หลากหลาย ตกแต่งสไตล์ใหม่ทันสมัย ลงทุนประมาณ 3.5 ล้านบาทต่อสาขา และคาดว่าจะมีพนักงานประมาณ 15 คนต่อสาขาสำหรับโมเดลใหม่นี้ จากเดิมเฉลี่ยใช้แค่ 5-6 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นโมเดลที่ในต่างประเทศมีเปิดบริการบ้างแล้วและได้รับการตอบรับที่ดีเช่นในอเมริกา
นอกจากนั้นจะมีการเพิ่มไลน์สินค้าที่เป็นเครื่องดื่มเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้ที่มาจากเครื่องดื่มประมาณ 30% ภายในสิ้นปีหน้า จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากเครื่องดื่มมีเพียง 15% เท่าน้้น ส่วนอีก 85% มาจากโดนัท โดยล่าสุดได้เปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ๆ วางจำหน่ายใน 6 สาขาก่อน และเดือนหน้าจะทยอยเพิ่มอีก 20 สาขา ก่อนจะวางจำหน่ายให้ครบทุกสาขาในปีหน้า
“ตลาดโดนัทในไทยยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก สังเกตได้จากการมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเปิดอีก ซึ่งก็ต้องมีการพัฒนารูปแบบสินค้า บริการ โมเดลร้านอย่างต่อเนื่อง จึงจะแข่งขันได้ โดยมูลค่าตลาดรวมโดนัทในไทยเวลานี้มีประมาณ 4,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10-15% ทุกปี”
สำหรับปีหน้าบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขาดังกิ้นโดนัทต่อเนื่องประมาณ 20 สาขา เช่นเดียวกับปีนี้ ซึ่งภายในเดือนหน้าก็จะเปิดอีกรวม 6 สาขาใหม่ ขณะนี้มีสาขาดังกิ้นโดนัทรวมแล้ว 242 สาขาทั่วไทย กระจายไปทั้งในศูนย์การค้า สแตนด์อะโลน คอมมูนิตีมอลล์ และอื่นๆ ลงทุนประมาณ 1.5-2 ล้านบาทต่อสาขา
“ตอนนี้เราเป็นผู้นำตลาดโดนัทในไทย ในด้านของนวัตกรรมสินค้า การตลาด และการจัดกิจกรรม เรามีแชร์ประมาณ 40% หรือมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท เป็นที่สองในแง่ยอดขาย และยังเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้หลักให้กลุ่มถึง 60% ส่วนที่สองคือแบรนด์โอบองแปงที่มี 60 สาขา และบาสกิ้นร้อบบิ้นส์ที่เพิ่งเริ่มทำตลาดยังมีสัดส่วนรายได้น้อยมาก” นายนาดิมกล่าว
นายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลเด้น โดนัท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านดังกิ้นโดนัท ในเครือบริษัท มัดแมน จำกัด เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯ เตรียมที่จะเปิดร้านดังกิ้นโดนัทในคอนเซ็ปต์ใหม่ที่เป็นโดนัทเบเกอรี คาเฟ่ มีรายการอาหารที่หลากหลาย ตกแต่งสไตล์ใหม่ทันสมัย ลงทุนประมาณ 3.5 ล้านบาทต่อสาขา และคาดว่าจะมีพนักงานประมาณ 15 คนต่อสาขาสำหรับโมเดลใหม่นี้ จากเดิมเฉลี่ยใช้แค่ 5-6 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นโมเดลที่ในต่างประเทศมีเปิดบริการบ้างแล้วและได้รับการตอบรับที่ดีเช่นในอเมริกา
นอกจากนั้นจะมีการเพิ่มไลน์สินค้าที่เป็นเครื่องดื่มเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้ที่มาจากเครื่องดื่มประมาณ 30% ภายในสิ้นปีหน้า จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากเครื่องดื่มมีเพียง 15% เท่าน้้น ส่วนอีก 85% มาจากโดนัท โดยล่าสุดได้เปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ๆ วางจำหน่ายใน 6 สาขาก่อน และเดือนหน้าจะทยอยเพิ่มอีก 20 สาขา ก่อนจะวางจำหน่ายให้ครบทุกสาขาในปีหน้า
“ตลาดโดนัทในไทยยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก สังเกตได้จากการมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเปิดอีก ซึ่งก็ต้องมีการพัฒนารูปแบบสินค้า บริการ โมเดลร้านอย่างต่อเนื่อง จึงจะแข่งขันได้ โดยมูลค่าตลาดรวมโดนัทในไทยเวลานี้มีประมาณ 4,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10-15% ทุกปี”
สำหรับปีหน้าบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขาดังกิ้นโดนัทต่อเนื่องประมาณ 20 สาขา เช่นเดียวกับปีนี้ ซึ่งภายในเดือนหน้าก็จะเปิดอีกรวม 6 สาขาใหม่ ขณะนี้มีสาขาดังกิ้นโดนัทรวมแล้ว 242 สาขาทั่วไทย กระจายไปทั้งในศูนย์การค้า สแตนด์อะโลน คอมมูนิตีมอลล์ และอื่นๆ ลงทุนประมาณ 1.5-2 ล้านบาทต่อสาขา
“ตอนนี้เราเป็นผู้นำตลาดโดนัทในไทย ในด้านของนวัตกรรมสินค้า การตลาด และการจัดกิจกรรม เรามีแชร์ประมาณ 40% หรือมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท เป็นที่สองในแง่ยอดขาย และยังเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้หลักให้กลุ่มถึง 60% ส่วนที่สองคือแบรนด์โอบองแปงที่มี 60 สาขา และบาสกิ้นร้อบบิ้นส์ที่เพิ่งเริ่มทำตลาดยังมีสัดส่วนรายได้น้อยมาก” นายนาดิมกล่าว