วันพุธตลาดหุ้นไทยปิดบวก ดัชนี SET ปิดที่ 1,434.97 จุด เพิ่มขึ้น 19.53 จุด(+1.38%)มูลค่าการซื้อขาย 43,539.29 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,890.45 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,411-1,457 ตลาดมีแนวโน้มเชิงบวกตามปัจจัยเรื่องการเมือง โดยหากวุฒิสภามีมติไม่รับหลักการ พรบ.นิโทษฯและส่งคืนมายังสภาผู้แทนฯ พรรคเพื่อไทยจะปล่อยให้ตกไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ SET50 ปรับตัวยืนแนวรับ 975 ได้มั่นคงแนวโน้มมีโอกาสทดสอบแนวต้านจิตวิทยา 1,000 GFZ13 เก็งกำไรในกรอบ 19,460-19,680 GFG14 เก็งกำไรในกรอบ 19,540-19,760
กลยุทธ์ ความคาดหวังต่อภาวะการคลี่คลายทางการเมืองทำให้การปรับตัวลงมีแรงซื้อกลับคืน และคาดแนวโน้มตลาดจะกลับไปขึ้นกับปัจจัยพื้นฐานเรื่องผลประกอบการ กลุ่มสื่อสาร ปรับตัวซื้อเก็งกำไร กลุ่มธนาคาร KBANK SCB KTB กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCCC TPIPL SCC CCP กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซื้อระยะสั้นจากประเด็น 23 พ.ย. ที่ประชุมวุฒิสภาจะพิจารณาร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ CPN PS LPN กลุ่มพาณิชย์ ROBINS BIGC MINT หุ้นรายหลักทรัพย์ TKS BTS TRC ระยะกลาง ถือ ปรับลงแรงซื้อเพิ่มเล็กน้อย
หุ้นแนะนำพิเศษ
PS (ราคาปิด 23.60 ซื้อ เป้าหมาย 33.90 บาท) เป็นผู้นำในการพัฒนาทาวน์เฮ้าส์สำหรับลูกค้ากลาง-ล่าง ยอดขาย presale ในช่วง 10 เดือนแรกปี 56 ทำได้เกือบ 3.7 หมื่นล้านบาทสูงกว่าเป้าทั้งปีที่ 3.5 หมื่นล้านบาทและมีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้ ซึ่งได้แรงหนุนจากการรุกเปิดขายคอนโดมิเนียมในเมืองที่ได้รับการตอบรับดี ทำให้ยอดขายรอโอน (backlog) ทรงตัวในระดับสูงกว่า 4 หมื่นล้านบาทและหนุนการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต
หุ้นเด่นรายวัน
HFT (ราคาปิด 2.60 ซื้อเก็งกำไร) บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการปี 57 เติบโตกว่า 20% จากการเดินเครื่องจักรใหม่หลังจากขยายกำลังการผลิตในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้สามารถรับคำสั่งซื้อได้เพิ่มขึ้นราว 30-50% ประกอบกับมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง (ที่มา : ทันหุ้น)
LPN (ราคาปิด 21.90 ซื้อ เป้าหมาย 29.40) แจ้ง 3Q56 มีกำไร 614 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%YoY 9 เดือนแรกปี 56 มีกำไร 1,775 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 80%YoY ทั้งนี้จากการประชุมนักวิเคราะห์หุ้นวานนี้ผู้บริหารชี้แจงว่าปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้ลงจาก 1.5 หมื่นล้านบาทเหลือ 1.4 หมื่นล้านบาทจากการโอนล่าช้า
BCP (ปิด 33 บาท ซื้อเป้าปี 56: 40.40)แจ้งกำไรสุทธิ 3Q56 ที่ 1,359 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 234%qoq และ 26.7%yoy เป็นผลจาก1) บริษัทมีกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น 5%qoq และ 160%yoy 2)มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบ 926 ล้านบาทตรงข้ามกับ 2Q56 ที่ ขาดทุน 919 ล้านบาท และ 3)มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 95 ล้านบาทจากที่ขาดทุน 53 ล้านบาทใน 2Q56
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,411-1,457 ตลาดมีแนวโน้มเชิงบวกตามปัจจัยเรื่องการเมือง โดยหากวุฒิสภามีมติไม่รับหลักการ พรบ.นิโทษฯและส่งคืนมายังสภาผู้แทนฯ พรรคเพื่อไทยจะปล่อยให้ตกไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ SET50 ปรับตัวยืนแนวรับ 975 ได้มั่นคงแนวโน้มมีโอกาสทดสอบแนวต้านจิตวิทยา 1,000 GFZ13 เก็งกำไรในกรอบ 19,460-19,680 GFG14 เก็งกำไรในกรอบ 19,540-19,760
กลยุทธ์ ความคาดหวังต่อภาวะการคลี่คลายทางการเมืองทำให้การปรับตัวลงมีแรงซื้อกลับคืน และคาดแนวโน้มตลาดจะกลับไปขึ้นกับปัจจัยพื้นฐานเรื่องผลประกอบการ กลุ่มสื่อสาร ปรับตัวซื้อเก็งกำไร กลุ่มธนาคาร KBANK SCB KTB กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCCC TPIPL SCC CCP กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซื้อระยะสั้นจากประเด็น 23 พ.ย. ที่ประชุมวุฒิสภาจะพิจารณาร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ CPN PS LPN กลุ่มพาณิชย์ ROBINS BIGC MINT หุ้นรายหลักทรัพย์ TKS BTS TRC ระยะกลาง ถือ ปรับลงแรงซื้อเพิ่มเล็กน้อย
หุ้นแนะนำพิเศษ
PS (ราคาปิด 23.60 ซื้อ เป้าหมาย 33.90 บาท) เป็นผู้นำในการพัฒนาทาวน์เฮ้าส์สำหรับลูกค้ากลาง-ล่าง ยอดขาย presale ในช่วง 10 เดือนแรกปี 56 ทำได้เกือบ 3.7 หมื่นล้านบาทสูงกว่าเป้าทั้งปีที่ 3.5 หมื่นล้านบาทและมีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้ ซึ่งได้แรงหนุนจากการรุกเปิดขายคอนโดมิเนียมในเมืองที่ได้รับการตอบรับดี ทำให้ยอดขายรอโอน (backlog) ทรงตัวในระดับสูงกว่า 4 หมื่นล้านบาทและหนุนการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต
หุ้นเด่นรายวัน
HFT (ราคาปิด 2.60 ซื้อเก็งกำไร) บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการปี 57 เติบโตกว่า 20% จากการเดินเครื่องจักรใหม่หลังจากขยายกำลังการผลิตในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้สามารถรับคำสั่งซื้อได้เพิ่มขึ้นราว 30-50% ประกอบกับมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง (ที่มา : ทันหุ้น)
LPN (ราคาปิด 21.90 ซื้อ เป้าหมาย 29.40) แจ้ง 3Q56 มีกำไร 614 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%YoY 9 เดือนแรกปี 56 มีกำไร 1,775 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 80%YoY ทั้งนี้จากการประชุมนักวิเคราะห์หุ้นวานนี้ผู้บริหารชี้แจงว่าปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้ลงจาก 1.5 หมื่นล้านบาทเหลือ 1.4 หมื่นล้านบาทจากการโอนล่าช้า
BCP (ปิด 33 บาท ซื้อเป้าปี 56: 40.40)แจ้งกำไรสุทธิ 3Q56 ที่ 1,359 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 234%qoq และ 26.7%yoy เป็นผลจาก1) บริษัทมีกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น 5%qoq และ 160%yoy 2)มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบ 926 ล้านบาทตรงข้ามกับ 2Q56 ที่ ขาดทุน 919 ล้านบาท และ 3)มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 95 ล้านบาทจากที่ขาดทุน 53 ล้านบาทใน 2Q56