นายกรัฐมนตรีแอนโตนิส ซามาราสของกรีซกล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจของกรีซจะบรรเทาลงในปี 2014 ในขณะที่เศรษฐกิจหลุดพ้นจากภาวะถดถอย และภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะอยู่ในระดับไม่รุนแรงเท่ากับที่คาดไว้ ในปีนี้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถบรรลุเป้าหมายในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ
กรีซประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมานาน 6 ปีแล้ว โดยเศรษฐกิจหดตัวลง 23 % นับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งส่งผลให้อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ 27 %,จำนวนคนจนเพิ่มสูงขึ้น และธุรกิจหลายพันแห่งต้องปิดกิจการ นอกจากนี้ มาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลกรีซยังส่งผลกระทบต่อปริมาณการบริโภคในภาคเอกชนด้วย
สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกรีซอาจหดตัวลง 4.2 % ในปีนี้ หลังจากทรุดตัวลง 6.4 % ในปี 2012 โดยอียูและ ไอเอ็มเอฟได้ให้ความช่วยเหลือแก่กรีซในช่วงที่ผ่านมาผ่านทางมาตรการ ให้ความช่วยเหลือ 2 รอบ ซึ่งมีวงเงินหลายพันล้านยูโร
อย่างไรก็ดี นายซามาราสกล่าวในงานเทรดแฟร์ประจำปีที่เมืองเธสซาโลนิกิ ในกรีซว่า ภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจในปีนี้ จะอยู่ในระดับ "ไม่รุนแรงเท่าที่คาด" และเขาให้สัญญาต่อชาวกรีซว่า เศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปีหน้า
นายซามาราสกล่าวว่า "ปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากที่สุด, เป็นปีที่สำคัญที่สุด และปีนี้ได้กลายเป็นปีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด"
มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกรีซอาจจะออกจากภาวะตกต่ำเป็นเวลายาวนาน โดยตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจกรีซหดตัวลงเพียง 3.8 % ในไตรมาส 2 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในภาคการท่องเที่ยว โดยอัตราการหดตัว 3.8 % นี้ถือเป็นอัตราที่น้อยที่สุดในรอบเกือบ3 ปี
กลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซคาดว่า เศรษฐกิจกรีซอาจเติบโต 0.6 % ในปี 2014 และจะขยายตัวมากขึ้นอีกในปี 2015 ในขณะที่อัตราการว่างงานอาจลดลงสู่ 26 % ในปีหน้า
นายซามาราสกล่าวว่า รัฐบาลกรีซจะบรรลุเป้าหมายทางการคลังที่ตั้งไว้สำหรับปีนี้ในการมียอดเกินดุลงบประมาณเบื้องต้น ซึ่งดุลดังกล่าวไม่รวมการชำระหนี้ โดยการบรรลุเป้าหมายนี้จะเปิดโอกาสให้กรีซสามารถขอลดหย่อนหนี้จากประเทศอื่นๆในยูโรโซนได้อีก
นายซามาราสกล่าวว่า "กรีซกำลังทำตามสัญญาและกำลังจะบรรลุเป้าหมาย โดย สิ่งเดียวที่จำเป็นสำหรับกรีซก็คือการที่เจ้าหนี้ของเราต้องทำตามสัญญาเช่นกัน" ที่ผ่านมา กรีซไม่สามารถกู้เงินจากตลาดการเงินได้ตั้งแต่ปี 2010 แต่กรีซ ไม่ล้มละลายเพราะได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการปล่อยกู้วงเงิน 2.40 แสนล้านยูโรในช่วงที่ผ่านมา และมาตรการในปัจจุบันนี้จะช่วยเหลือกรีซต่อไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2014 ขณะที่ไอเอ็มเอฟและรัฐบาลกรีซประเมินว่า รัฐบาลกรีซจำเป็นต้องได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 1.0-1.1 หมื่นล้านยูโรในปี 2014-2015
ยูโรโซนมีแนวโน้มที่จะตกลงให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่กรีซในเดือนพ.ย. หลังจากกลุ่มทรอยกา หรือคณะผู้ตรวจการของอียู, ไอเอ็มเอฟ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เสร็จสิ้นการประเมินความพยายามของกรีซในการปฏิรูปประเทศ โดยทรอยกาจะเดินทางมาเยือนกรุงเอเธนส์ในวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย.
มาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจกรีซรวมถึงการขายสินทรัพย์ของรัฐบาล และการปลดคนงานภาครัฐ 25,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูและตำรวจเทศกิจ โดยมาตรการนี้ส่งผลให้มีการเดินขบวนประท้วง และการผละงานในช่วงที่ผ่านมา
นายซามาราสเดินทางกลับมาที่กรุงเอเธนส์ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่กลุ่มต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดและสหภาพแรงงาน ซึ่งรวมถึงสหภาพลูกจ้างเทศบาล, พนักงานดับเพลิง และยามชายฝั่ง จะจัดการเดินขบวนประท้วง
พรรค Syriza กล่าวหานายซามาราสว่า ไม่ยอมรับความเป็นจริงที่ชาวกรีซ 1.5 ล้านคนตกงาน โดยทางพรรคระบุว่า "คำถามสำคัญที่นายกรัฐมนตรีทิ้งเอาไว้ก็คือ เขารู้หรือไม่ว่าเขากำลังใช้ชีวิตอยู่ในประเทศใด"
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
กรีซประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมานาน 6 ปีแล้ว โดยเศรษฐกิจหดตัวลง 23 % นับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งส่งผลให้อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ 27 %,จำนวนคนจนเพิ่มสูงขึ้น และธุรกิจหลายพันแห่งต้องปิดกิจการ นอกจากนี้ มาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลกรีซยังส่งผลกระทบต่อปริมาณการบริโภคในภาคเอกชนด้วย
สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกรีซอาจหดตัวลง 4.2 % ในปีนี้ หลังจากทรุดตัวลง 6.4 % ในปี 2012 โดยอียูและ ไอเอ็มเอฟได้ให้ความช่วยเหลือแก่กรีซในช่วงที่ผ่านมาผ่านทางมาตรการ ให้ความช่วยเหลือ 2 รอบ ซึ่งมีวงเงินหลายพันล้านยูโร
อย่างไรก็ดี นายซามาราสกล่าวในงานเทรดแฟร์ประจำปีที่เมืองเธสซาโลนิกิ ในกรีซว่า ภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจในปีนี้ จะอยู่ในระดับ "ไม่รุนแรงเท่าที่คาด" และเขาให้สัญญาต่อชาวกรีซว่า เศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปีหน้า
นายซามาราสกล่าวว่า "ปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากที่สุด, เป็นปีที่สำคัญที่สุด และปีนี้ได้กลายเป็นปีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด"
มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกรีซอาจจะออกจากภาวะตกต่ำเป็นเวลายาวนาน โดยตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจกรีซหดตัวลงเพียง 3.8 % ในไตรมาส 2 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในภาคการท่องเที่ยว โดยอัตราการหดตัว 3.8 % นี้ถือเป็นอัตราที่น้อยที่สุดในรอบเกือบ3 ปี
กลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซคาดว่า เศรษฐกิจกรีซอาจเติบโต 0.6 % ในปี 2014 และจะขยายตัวมากขึ้นอีกในปี 2015 ในขณะที่อัตราการว่างงานอาจลดลงสู่ 26 % ในปีหน้า
นายซามาราสกล่าวว่า รัฐบาลกรีซจะบรรลุเป้าหมายทางการคลังที่ตั้งไว้สำหรับปีนี้ในการมียอดเกินดุลงบประมาณเบื้องต้น ซึ่งดุลดังกล่าวไม่รวมการชำระหนี้ โดยการบรรลุเป้าหมายนี้จะเปิดโอกาสให้กรีซสามารถขอลดหย่อนหนี้จากประเทศอื่นๆในยูโรโซนได้อีก
นายซามาราสกล่าวว่า "กรีซกำลังทำตามสัญญาและกำลังจะบรรลุเป้าหมาย โดย สิ่งเดียวที่จำเป็นสำหรับกรีซก็คือการที่เจ้าหนี้ของเราต้องทำตามสัญญาเช่นกัน" ที่ผ่านมา กรีซไม่สามารถกู้เงินจากตลาดการเงินได้ตั้งแต่ปี 2010 แต่กรีซ ไม่ล้มละลายเพราะได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการปล่อยกู้วงเงิน 2.40 แสนล้านยูโรในช่วงที่ผ่านมา และมาตรการในปัจจุบันนี้จะช่วยเหลือกรีซต่อไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2014 ขณะที่ไอเอ็มเอฟและรัฐบาลกรีซประเมินว่า รัฐบาลกรีซจำเป็นต้องได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 1.0-1.1 หมื่นล้านยูโรในปี 2014-2015
ยูโรโซนมีแนวโน้มที่จะตกลงให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่กรีซในเดือนพ.ย. หลังจากกลุ่มทรอยกา หรือคณะผู้ตรวจการของอียู, ไอเอ็มเอฟ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เสร็จสิ้นการประเมินความพยายามของกรีซในการปฏิรูปประเทศ โดยทรอยกาจะเดินทางมาเยือนกรุงเอเธนส์ในวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย.
มาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจกรีซรวมถึงการขายสินทรัพย์ของรัฐบาล และการปลดคนงานภาครัฐ 25,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูและตำรวจเทศกิจ โดยมาตรการนี้ส่งผลให้มีการเดินขบวนประท้วง และการผละงานในช่วงที่ผ่านมา
นายซามาราสเดินทางกลับมาที่กรุงเอเธนส์ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่กลุ่มต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดและสหภาพแรงงาน ซึ่งรวมถึงสหภาพลูกจ้างเทศบาล, พนักงานดับเพลิง และยามชายฝั่ง จะจัดการเดินขบวนประท้วง
พรรค Syriza กล่าวหานายซามาราสว่า ไม่ยอมรับความเป็นจริงที่ชาวกรีซ 1.5 ล้านคนตกงาน โดยทางพรรคระบุว่า "คำถามสำคัญที่นายกรัฐมนตรีทิ้งเอาไว้ก็คือ เขารู้หรือไม่ว่าเขากำลังใช้ชีวิตอยู่ในประเทศใด"
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
