แฟมิลี่มาร์ทแตกโมเดล ปั้นโมบายยูนิต-ขายผัก

ซีอาร์ซีเร่งเครื่อง “แฟมิลี่มาร์ท” ชูกลยุทธ์ใหม่ๆ หวังขึ้นเบอร์สอง ไม่คิดล้มแชมป์เซเว่นอีเลฟเว่น ชูโมเดลใหม่บุก พร้อมสร้างจุดต่างเป็นร้านแบบญี่ปุ่น เพิ่มสินค้าญี่ปุ่น และสินค้าอาหารสด ปีหน้าเพิ่มงบลงทุนอีก

นายณัฐ วงศ์พาณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ในเครือเซ็นทรัล ผู้บริหารร้านคอนวีเนียนสโตร์ แฟมิลี่มาร์ท เปิดเผยว่า จากการแข่งขันที่รุนแรงของคอนวีเนียนสโตร์ทำให้บริษัทฯ ต้องสร้างจุดแข็งจุดต่างให้แก่แฟมิลี่มาร์ท เพื่อให้ดำรงสถานภาพเป็นอันดับ 2 ในตลาดให้ได้ เนื่องจากคงไม่สามารถก้าวขึ้นป็นอันดับ 1 แทนเซเว่นอีเลฟเว่นในตลาดแน่นอน

ทั้งนี้จะสร้างภากลักษณ์ให้แฟมิลี่มาร์ทเป็นร้านสะดวกซื้อสไตล์ญี่ปุ่นมากที่สุด และจะมีโมเดลใหม่ๆ ที่รุกตลาดในไทยด้วย ล่าสุดเปิดตัวโมเดลร้านแบบโมบายยูนิต หรือร้านรถเคลื่อนที่ และรูปแบบคีออสก์ ซึ่งโมบายยูนิตจะใช้วิ่งบริการในย่านชุมชนเพื่อเข้าถึงลูกค้ามากที่สุด ปัจจุบันมี 2 คันแล้ว คือ ในกรุงเทพฯ และพัทยา เร็วๆ นี้จะเพิ่มอีก 1 คันวิ่งภูเก็ต มีสินค้าประมาณ 600 รายการ

ส่วนรูปแบบคีออสก์จะใช้พื้นที่ในการเปิดร้านประมาณ 20-30 ตร.ม. มีสินค้าจำหน่ายประมาณ 700-1,000 รายการ เน้นเปิดให้บริการตามแหล่งชุมชน และโรงพยาบาล ขณะนี้มีจำนวนร้านเปิดให้บริการแล้วประมาณ 5-6 สาขา โดยโมเดลคีออสก์มีในต่างประเทศบ้างแล้ว เช่น เวียดนาม แต่รูปแบบโมบาย มีในประเทศไทยที่เดียวในเวลานี้ เพราะเราเป็นคนคิดคอนเซ็ปต์นี้ขึ้นมา

อีกทั้งจะมีการเพิ่มสินค้าประเภทอาหารสดเช่นผัก ผลไม้ เข้ามาจำหน่ายด้วย จากเดิมทีไม่มี เพื่อสร้างความสะดวกและจุดต่างมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มนำผลไม้คือแอปเปิลและกล้วยเข้ามาขายแล้ว ได้รับการตอบรับอย่างดี แต่เราก็คงไปสู้กับซูเปอร์มาร์เกตที่มีสินค้าสดขายมากไม่ได้อยู่แล้ว

นายณัฐกล่าวต่อถึงการสร้างอิมเมจเป็นร้านญี่ปุ่นว่าจะพยายามสร้างให้ร้านมีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้น ทั้งสินค้าและการตกแต่งและการทำตลาด โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสินค้าญี่ปุ่นทั้งผลิตในไทย และนำเข้าจากญี่ปุ่นที่มีจำหน่ายในแฟมิลี่มาร์ทเท่านั้น เพิ่มเป็น 30% ในอีก 5 ปีจากนี้ จากปัจจุบันมีประมาณ 10% และเพิ่มเป็น 20% ในอีก 3 ปี

ล่าสุดคือการนำสินค้าที่เรียกว่า แฟมิลี่มาร์ทคอลเลคชั่น ที่มีจำหน่ายในญี่ปุ่นเข้ามาขายในไทยด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร ล่าสุดจัดงานแฟมิลี่มาร์ทเฟสติวัล 2013 วันที่ 22-28 สิงหาคมนี้ ทีจำหน่ายสินค้าเฉพาะในแฟมิลี่มาร์ท ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว คาดหวังรายได้ในงานนี้ 10 ล้านบาท และเตรียมจัดต่ออีกตามหัวเมืองใหญ่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลแต่ละจังหวัดไม่ต่ำกว่า 8 ครั้ง

นายณัฐกล่าวว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกนี้เติบโต 18% โดยมีค่าใช้จ่ายของลูกค้าเพิ่ม 5% ต่อบิล และคาดว่าปีนี้จะมีรายได้รวม 14,000 ล้านบาท เพิ่ม 20% จากปีที่แล้วที่ทำได้ 12,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ยังคงเป้าหมายเดิมในการเปิดสาขาให้ได้ประมาณ 200 สาขา เน้นลงทุนเองเป็นหลักในปีนี้ ด้วยงบประมาณรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ที่บริษัทเข้ามาบริหารปลายปีที่แล้วมีการเปิดสาขาใหม่รวม 120 แห่ง ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขารวม 913 แห่งแล้ว และคาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 1,000 สาขาแน่นอน และตั้งงบการตลาดปีนี้ไว้ที่ 150 ล้านบาท ส่วนปีหน้าจะลงทุนเพิ่มขึ้นและเน้นสาขาแฟรนไชส์มากขึ้น