“เสี่ยเพ้ง” ย้ำต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบท่อน้ำมันดิบรั่ว ชี้หากท่อฉีกขาดจากภายในจะถือเป็นอุบัติเหตุ แต่ถ้าฉีกขาดจากภายนอกถือเป็นความผิดพลาดจากบุคคล ลั่นน้ำมันรั่วแค่ 5 แสนลิตรไม่ถึง 1.8 แสนลิตร พร้อมลงพื้นที่ร่วมกับ “วพน.” 3 รุ่นฟื้นฟูท่องเที่ยวเสาร์นี้
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมงานนิทรรศการ “รักแม่ รักษ์ป่า” เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม ว่า กรณีท่อน้ำมันดิบของ บมจ.โกลบอลเคมีคอล หรือ PTTGC รั่วขณะนี้ต้องรอให้กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตรวจสอบก่อน โดยหากท่อฉีกขาดจากภายในเพราะแรงระเบิดก็จะสรุปได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่หากเป็นการฉีกขาดจากภายนอกก็จะชี้ได้ว่าเป็นความผิดพลาดจากบุคคล
“ท่อฉีกเป็นทางตรงคงต้องพิสูจน์หลักฐานให้ชัด ซึ่งท่อน้ำมันดิบเป็นท่อเสริมใยเหล็กสามารถรับแรงดันได้ 28 บาร์ แต่ระหว่างขนส่งมีแรงดันเพียง 8 บาร์ก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้เชิญ บ.กู๊ดเยียร์ซึ่งชำนาญการผลิตท่อมาร่วมตรวจสอบด้วย” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
สำหรับปริมาณน้ำมันดิบที่รั่วยืนยันว่ามีประมาณ 50,000 ลิตร โดยท่อดังกล่าวที่มีขนาด 16 นิ้ว ความยาว 270 เมตร เมื่อมีการฉีกขาดวาล์วหัวท้ายท่อจะปิดทันที ซึ่งพบว่ามีน้ำมันค้างท่อ 35,000 ลิตร และระหว่างนี้น่าจะมีน้ำมันรั่ว 10,000 กว่าลิตร แต่การที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าจะรั่วถึง 180,000 ลิตรคงจะเทียบจากการใช้น้ำยาขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งครั้งนี้ใช้ถึง 33,000 ลิตร โดยสูตรห้องแล็บที่ใช้จะอยู่ในอัตรา 6 ต่อ 1 ซึ่งข้อเท็จจริงเมื่อเกิดพายุแรงการกระจายของน้ำมันมีมากจึงต้องพ่นน้ำยาซ้ำปริมาณจึงมาก
อย่างไรก็ตาม ช่วงสุดสัปดาห์นี้ตนและนักเรียนวิทยาลัยจัดการพลังงาน (วพน.) ทั้ง 3 รุ่น จะลงพื้นที่เกาะเสม็ดร่วมกิจกรรมบนเกาะดังกล่าวเพื่อใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว และขึ้นไปที่อ่าวพร้าว โดยนักเรียน วพน. ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน นักวิชาการ เอ็นจีโอ สื่อมวลชนจะร่วมกันไปดูข้อเท็จจริงข้อมูลต่างๆ ส่วนการเร่งเยียวยาทางคณะกรรมการ 3 ฝ่ายที่มีผู้ว่าราชการ จ.ระยองเป็นประธานจะเป็นผู้สรุปรายชื่อผู้ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่ง PTTGC พร้อมจ่ายชดเชยอยู่แล้ว