รถคันแรกดันการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินครึ่งปีโตพรวด 9% หรือจากปกติ 19-20 ล้านลิตรต่อวันขยับมาที่ 22.5 ล้านลิตรต่อวัน สูงสุดในรอบ 5 ปี แถมส่วนหนึ่งหันไปซบแอลพีจีภาคขนส่งโตพรวด 60.8% อยู่ที่ 4.7 พันตันต่อวัน ปั๊มแอลพีจีผุดรับ 529 แห่ง
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 6 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 56) ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 9% อยู่ที่ 22.5 ล้านลิตรต่อวันหรือสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ดีเซลเพิ่มขึ้น 4% อยู่ที่ 59.6 ล้านลิตรต่อวัน ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เพิ่มขึ้น 4% อยู่ที่ 20.3 พันตันต่อเดือน ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์เพิ่มขึ้น 1% อยู่ที่ 8.4 ล้านกิโลกรัมต่อวัน คาดว่าทั้งปีหลังการใช้กลุ่มเบนซินจะเติบโต 8-9% ดีเซลโต 3-4% เนื่องจากปริมาณรถใหม่มีเพิ่มมากขึ้นซึ่งรวมถึงรถคันแรกซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลจึงทำให้การใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มสูง
“การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินปกติจะใช้อยู่ 19-20 ล้านลิตรต่อวัน แต่ขณะนี้การใช้สูงถึงกว่า 22 ล้านลิตรต่อวันถือว่าโตผิดปกติจากที่เดิมจะโตเฉลี่ย 2-3% เท่านั้นเพราะปริมาณรถใหม่ที่มากขึ้น โดยเฉพาะยอดขายรถยนต์คันแรกที่มากกว่าล้านคันและรถใหม่ก็ใช้แก๊สโซฮอล์อี 20 ได้จึงทำให้ยอดใช้อี 20 ครึ่งปีแรกโตจากปลายปีที่แล้วใช้แค่ 1.7 ล้านลิตรต่อวันเป็น 2.6 ล้านลิตรต่อวัน คาดว่าเมื่อคาลเท็กซ์และเอสโซ่เปิดขายอี 20 ช่วง ส.ค.-ก.ย.นี้ก็จะทำให้การใช้อี 20 จะสูงถึง 3 ล้านลิตรต่อวันช่วงสิ้นปีนี้ ทำให้ ธพ.ต้องสั่งโรงกลั่นแจ้งแผนการหยุดซ่อมล่วงหน้าเพื่อบริหารการนำเข้าน้ำมันพื้นฐานหรือจีเบสที่ต้องใช้ราว 20-30 ล้านลิตรต่อเดือนไม่ให้ขาดในการผสมเป็นแก๊สโซฮอล์” นายวีระพลกล่าว
สำหรับการใช้แอลพีจีภาคขนส่ง 6 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 4.7 พันตันตันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 2.9 พันตันต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 60.8% ซึ่งรถยนต์ส่วนหนึ่งที่เพิ่มขึ้นและรถยนต์เก่าส่วนหนึ่งได้หันมาใช้แอลพีจีในรถยนต์แทน โดยในเดือน มิ.ย. 56 สถานีบริการแอลพีจี (ปั๊มแอลพีจี) อยู่ที่ 1,604 แห่ง เพิ่มขึ้นจาก พ.ค. 56 จำนวน 63 แห่ง และเพิ่มขึ้นจากช่วง มิ.ย. 55 ถึง 529 แห่ง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแนวโน้มจะเติบโตในสัดส่วนที่ลดลงในอนาคตหลังจากที่รัฐบาลส่งสัญญาณจะปรับขึ้นราคาแอลพีจีขนส่งไปสู่ระดับ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม จากขณะนี้อยู่ที่ 21.38 บาทต่อ กก.
สำหรับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง 6 เดือนแรกปีนี้ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 2% อยู่ที่ 9.56 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็นผลจากการนำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลง 3% อยู่ที่ 8.8 แสนบาร์เรลต่อวัน มูลค่านำเข้ารวมอยู่ที่ 5.62 แสนล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนประมาณ 13% โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นการนำเข้าแอลพีจี 1.51 แสนตันต่อเดือนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 4.3% คิดเป็นมูลค่านำเข้า 2.38 หมื่นล้านบาทลดลง 16.4%