xs
xsm
sm
md
lg

น้ำผลไม้แองกรีเบิร์ดบุกไทย ซุ่มพัฒนาเกมสร้างกระแส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จัสท์ ดริ้ง อิท“ ซื้อไลเซ่น์คาแรคเตอร์ แองกี้เบิร์ด ขยายตลาดน้ำผลไม้เอเซีย ประเดิมไทยเป็นตลาดแรก จัสท์ดริงค์อิท มั่นใจยอดขาย 10 ล้านกระป๋องในปีนี้ จ่อส่งออก มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม

นายยูรากิ  ทาปานิ  ไคโมไลเนน  ประธานผู้บริหาร  บริษัท จัสท์ ดริ้งค์ อิท (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับไลเซ่นส์ตัวการ์ตูนแองกี้เบิร์ด ชื่อดังจากบริษัท โรวิโอ ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้พัฒนาแองกี้เบิร์ดอันโด่งดังทั่วโลก เป็นเวลา 2 ปี เพื่อนำมาเป็นแบรนด์น้ำผไม้ แองกี้เบิร์ด ทำตลาดในเอเซีย โดยเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในเอเซีย
จากเดิมที่ทำตลาดในประเทฟินแลนด์เป็นแห่งแรกช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมียอดจำหน่ายประมาณ 30 ล้านกระป๋องภายใน 6 เดือนแรกที่เปิดตัวทั้งๆที่ฟินแลนด์มีประชากรเพียง 5.5 ล้านคนเท่านั้น

บริษัทฯมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในไทยแน่นอน เพราะไทยมีประชากรมากถึง 70 ล้านคน เป็นตลาดที่ใหญ่กว่าฟินแลนด์หลายเท่า อากาศเมืองไทยก็ร้อน อีกทั้งคนไทยเปิดกว้างรับสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา จะเป็นปัจจัยที่ทำให้น้ำผลไม้แองกี้เบิร์ดประสบความสำเร็จในไทยเช่นเดียวกัน และมีแผนที่จะใช่้ไทยเป็นฐานในการรุกตลาดเอเซียด้วย

ทั้งนี้ ตลาดรวมน้ำผลไม้ในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดน้ำผลไม้ 100% หรือพรีเมียม  สัดส่วน 65%  ตลาดน้ำผลไม้ 40% หรือสแตนดาร์ดสัดส่วน 35% และน้ำผลไม้ 25% หรืออีโคโนมี  แต่กลุ่มอีโคโนมีเป็นตลาดที่เติบโตมากสุด  16%  การทำตลาดในไทยได้ว่่าจ้างให้โรงงานของเครื่องดื่มน่ำผลไม้่มาลีเป็นผู้ผลิตให้

ส่วนการกระจายสินค้ารับผิดชอบโดย บริษัท เดอเบล จำกัด ในเครือเครื่องดืื่่มกระทิงแดง เปิดตัว 3 รสชาติ คือรสฟรุ๊ตพั้นช์  รสส้ม  และรสสตอเบอร์รี่ เป็นน้ำผลไม่15 % ทำตลาดกลุ่มอีโคโนมี เป็นกระป๋องสลิม ขนาด 180 มล. ราคา 15 บาท จับกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 5-17 ปี สัดส่วน 45% อายุ 17-25 ปี ส้่ดส่วน 35% และกลุ่มอายุไม่เกิน 25 ปีขึ้นไป สัดส่วน 20%

ส่วนแผนการตลาดนั้นจะใช้กลยุทธ์ 360 องศา ทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกูรูปแบบ เพื่อสร้างการเข้าถึงและการจดจำในตัวผู้บริโภค จะเน้นสื่อออนไลน์เป็นหลักและจะมีการใช้คนไทยที่โด่งดังเป็นแบรนด์เอนดอร์ซเม้นต์ จะมีการพัฒนาเกมขึ้นมาในไทยโดยเฉพาะ เนื่องจากเกมแองกี้เบิร์ดในไทยได้รับความนิยมอย่างมาก มีการดาวน์โหลดเกมส์นี้แล้วมากกว่า 2 ล้านครั้งต่อเดือน ทั้งนี้ ตั้งงบการตลาดไว้ที่ 3-5% ของยอดขาย

แผนระยะยาวจะขยายไลน์เครื่องดื่มไปสู่ความหลากหลาย ไม่่ว่าจะเป็นซอฟท์ดริงค์ หรือ กาแฟพร้อมดื่ม เป็นต้น รวมทั้งจะขยายตลาดต่างประเทศ เบื้องต้นสนใจประเทศ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม


กำลังโหลดความคิดเห็น