เช็คเรทติ้ง”ครม.ปู1/5” ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเหตุแค่ปรับตัวละครเพื่อลดกระแสกดดันโดยเฉพาะกลบข้าวเน่าก.พาณิชย์ แต่ผู้กำกับเดิมทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยน โผที่ออกมาดูแล้วไม่เชื่อมั่นว่าจะรับมือศก.ได้ดีไปกว่าเดิม แต่ให้เวลาพิสูจน์ผลงาน 3 เดือน
นายอนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) 1/5 ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อย่าไปตื่นเต้นหรือคาดหวังอะไรมากโดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีของกระทรวงพาณิชย์เพราะเป็นเพียงการเปลี่ยนตัวละครเพื่อลดกระแสข่าวการกดดันปัญหาการทุจริตจำนำข้าวเท่านั้นแต่ที่สุดแล้วไม่ว่าใครจะมาท้ายสุดก็ต้องอยู่กับผู้กำกับละครคนเดิมที่ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์เกษตรกรแต่อย่างใด
“ผมว่าอย่าไปตื่นเต้นอะไรมากเพราะการปรับครม.ส่วนใหญ่ที่มาก็ล้วนแต่เป็นใบสั่งแม้ว่าบางคนอาจจะเข้ามาด้วยเจตนาดีแต่ถ้าเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่มีผลประโยชน์ ก็ไม่เหลืออะไรทุกอย่างก็เหมือนเดิม”นายอนันต์กล่าว
สำหรับกรณีการที่รัฐบาลได้ลดวงเงินรับจำนำข้าวเหลือตันละ 1.2 หมื่นบาทนั้นไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเป็นเพียงลดแรงกดดันที่ผิดพลาดแต่เมื่อทุกอย่างเข้ามาเชื่อว่ากระบวนการดำเนินงานก็ยังคงปฏิบัติเช่นเดิมทุกอย่าง ซึ่งส่วนตัวผมไม่เคยคาดหวังอะไรกับการเมืองแบบนี้ซึ่งการพัฒนาประเทศควรมองแบบเกาหลีใต้อย่างที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์ไว้คือการพัฒนาประเทศจะต้องพัฒนาชนบทก่อนซึ่งผ่านไปเพียง 10 ปีเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จ
นายสมมาต ขุนเศรษฐ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่าการปรับครม.รัฐบาลเองยังคงถูกประชาชนจับตาว่านำตัวบุคคลมาเป็นรัฐมนตรีแบบโปร่งใสหรือไม่ และโผรายชื่อที่ออกมาเองก็ไม่เห็นว่าจะเป็นยาวิเศษดีพอเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังที่มีสัญญาณหลายด้านที่ไม่ดีนัก แต่ก็ยังเห็นว่าควรให้โอกาสทำงาน 3 เดือนซึ่งการเข้ามาช่วงนี้ถือว่าถ้า 3 เดือนไม่มีอะไรดีขึ้นควรพิจารณาตนเอง
นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการส.อ.ท.กล่าวว่า เท่าที่ติดตามดูเป็นการดึงนักการเมืองหน้าเก่ามารับตำแหน่งและเป็นคนละเรื่องกันกับเศรษฐกิจที่ครึ่งปีหลังมีความท้าทายจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งครม.ใหม่ไม่ควรมีหน้าที่เข้ามากำกับดูแล แต่ต้องทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ซึ่ง ภาคเอกชนประเมินว่า ภาคการส่งออกในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่า 5% ด้วยซ้ำ
“การบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ในด้านราคาสินค้าเกษตรก็ตกต่ำ การส่งออกข้าวในเดือน พ.ค.ติดลด 26% ยางพาราติดลบ 12% ขณะที่การลดราคารับจำนำข้าวจาก 15,000 บาทเหลือ 12,000 บาท ก็ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถทำได้หรือไม่ เพราะเกษตรกรต้องการรายได้ไปชำระหนี้ เมื่อเทียบกับสัดส่วนหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น”นายธนิตกล่าว
