- สนง.สถิติแห่งชาติของอิตาลีรายงานว่าอิตาลีมียอดเกินดุลการค้ากับประเทศนอกกลุ่มสหภาพยูโรปที่ 3 พันล้านยูโรในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น และการนำเข้าพลังงานที่ลดลง
- สนง.สถิติแห่งชาติของเยอรมนีเปิดเผยว่าค่าครองชีพในเยอรมนี ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรปเล็กน้อยที่ 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ามีเพียงโปแลนด์และสาธารณรัฐเชคเท่านั้นที่มีค่าครองชีพต่ำลง
- นายปิแอร์ มอสโกวิซี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศสประกาศแผนลงทุน 1.2 พันล้านยูโร โดยร่วมมือกับธนาคารเพื่อการลงทุนสาธารณะของฝรั่งเศส เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศ
- นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส แสดงความกังวลกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่าการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะไม่สร้างความกังวลแก่เขา โดยเขาเห็นด้วยกับการลดขนาดหรือการชะลอแผนการซื้อพันธบัตรรายเดือนของเฟด หากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปตามคาดของเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย
- ประธานาธิบดีบราซิล เตรียมจัดสรรเงินจำนวน 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้จ่ายในการปรับปรุงการขนส่งสาธารณะ หลังเกิดเหตุประท้วงอย่างหนักทั่วประเทศนานกว่า 1 สัปดาห์ พร้อมประกาศมาตรการต่างๆ อีก 5 ข้อ ซึ่งประกอบด้วย
1. ความรับผิดชอบทางการเงินและควบคุมเงินเฟ้อ
2. การปฏิรูปการเมือง
3. การดูแลสุขภาพ
4. การขนส่งสาธารณะ
5. การศึกษา
- ธ.กลางจีนเผยว่าจีนจะดูแลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินอยู่ในระดับที่เหมาะสม และระบุว่าปัจจัยตามฤดูกาลที่ผลักดันอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นจะค่อยๆหายไป โดยความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของจีนนั้นสามารถควบคุมได้ และ ธ.กลางจะติดตามอัตราดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิด
- ไชน่า เบจ บุ๊ค อินเตอร์แนชั่นแนล เผยว่าบริษัทในจีนยื่นขอเงินกู้น้อยลง โดยอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยที่ทำให้ยอดการขอเงินกู้ลดลง ขณะที่สัดส่วนการปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้นนั้นบ่งชี้ว่าสินเชื่อกระจุกตัวอยู่ที่ผู้กู้บางกลุ่มเท่านั้น โดยความแตกต่างของการปล่อยกู้ดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทั่วประเทศ และสภาพคล่องที่ตึงตัวในตลาดการเงินจนทำให้ต้นทุนการกู้ยืมระหว่างธนาคารสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- ธ.กลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 105 จุด โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนและทำสถิติสูงกว่าระดับ 100 จุดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 จากการที่ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไรก็ตาม ธ.กลางเกาหลีใต้คาดการณ์ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาจชะลอตัวลงในเดือนหน้า จากความผันผวนในตลาดการเงินหลังเฟดออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่านักท่องเที่ยวไทยและมาเลเซียที่ต้องการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นระยะเวลาสั้นๆ จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่าตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป ส่วนนักท่องเที่ยวจากฟิลิปปินส์และเวียดนามจะได้รับวีซ่าสำหรับการเดินทางเข้า-ออกประเทศหลายครั้งเป็นเวลา 3 ปี ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซียจะได้รับการขยายอายุวีซ่าสำหรับการเดินทางเข้า-ออกประเทศหลายครั้งเป็น 30 วันจากเดิมที่ 15 วัน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและความสะดวกสบายให้กับธุรกิจต่างๆ
- สหพันธ์อุตสาหกรรมเกาหลีใต้ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเกาหลีใต้ในเดือน ก.ค. ยังคงร่วงลงต่อเนื่อง โดยแตะระดับ 90.7 จากเดือน มิ.ย. ที่ระดับ 97.2 จากความวิตกกังวลที่เฟดจะยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ และกิจกรรมด้านการผลิตที่ชะลอตัวลงในจีน
- ศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดผลสำรวจความเห็นผู้บริหาร CEO Sentiment Index ประจำเดือน มิ.ย.-ก.ค.56 เกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจและธุรกิจ พบว่า ผู้บริหารต่างมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังปรับตัวลงต่อ โดยดัชนีด้านเศรษฐกิจในเดือน มิ.ย. ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2 จุด และคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 1 จุดในเดือน ก.ค. ถือว่าปรับลดลงอย่างรวดเร็วจากช่วงไตรมาสแรกของปีที่เคยอยู่ที่ระดับ 39 จุด
- SET Index ปิดที่ 1,384.63 จุด เพิ่มขึ้น 20.54 จุด หรือ 1.51% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55,530.73 ล้านบาท โดยดัชนีเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย และผันผวนปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดที่ 1338.81 จุด ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นหลังจาก SET ปรับตัวลงแรงติดต่อกัน 3 วันทำการ พลิกกลับมาปิดบวก หุ้นหลักอย่าง SCB +3.3%, KBANK +3.2%, CPALL +2.8%, ADVANC +1.5% ฟื้นตัวหลังจากธนาคารกลางจีนออกมาให้ความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์สภาพคล่องตึงตัวของจีน ว่าพร้อมจะให้การช่วยเหลือ และอัดฉีดเม็ดเงิน หากปัญหาดังกล่าวลุกลาม
- SHANGHAI ปิด 1,959.51 ลดลง -0.2% แกว่งตัวผันผวนก่อนปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากสถานการณ์สภาพคล่องตึงตัวของจีน ส่งผลให้ตลาดยังคงปรับตัวลดลง แตะจุดต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี นำโดยกลุ่มธุรกิจธนาคาร Ping An Bank Co. และ China Vanke Co.ที่ปรับตัวลงกว่า -1.67% และ -1.99% ตามลำดับ ในขณะที่ก่อนปิดตลาด ธนาคารกลางของจีนได้ออกมาให้ความเชื่อมั่นในการควบคุมสถานการณ์สภาพคล่องตึงตัว และอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารลดลงกว่า 47bps เหลือ 6% ส่งผลให้ตลาดสามารถฟื้นตัว และกลับมาปิดลบเพียงเล็กน้อยหลังจากผันผวนรุนแรงตลอดวัน
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงในช่วง -0.01% ถึง -0.08% โดยเฉพาะตราสารรุ่นอายุ 10 ปี ลดลง 8 bps. ในทิศทางเดียวกับ US Treasury โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มคลายความกังวลกับวิกฤตสภาพคล่องของประเทศจีน สำหรับนักลงทุนต่างชาติยังคงมีแรงขายต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพันธบัตรระยะสั้น ยอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 4,537 ล้านบาท
- มอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับลดราคาทองคำปี 2556 ลงเหลือ 1,409 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับ 1,487 ดอลลาร์ และยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำปี 2557 ลงเหลือ 1,313 ดอลลาร์ จากระดับ 1,563 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป และยูบีเอส เอจี ที่ได้ปรับลดการประเมินลง เนื่องจากแนวโน้มของการชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางสหรัฐ และดอลลาร์แข็งค่าขึ้น รวมทั้งผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้แรงดึงดูดของสภาพแวดล้อมของทองคำและเงินลดน้อยลงไป