xs
xsm
sm
md
lg

“ริธึ่ม” ลุยนาฬิกาข้อมือ นำร่องไทยจ่อฐานผลิตที่ 4

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าตลาดนาฬิกาแขวนผนัง “ริธึ่ม” สายเลือดญี่ปุ่นรุกตลาดนาฬิกาข้อมือ เปิดตัวมา 1 ปีได้รับการตอบรับเกินคาด ผลิตแทบไม่ทันออเดอร์ เล็งไทยฐานผลิตแห่งที่ 4 คาดใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท ชมไทยเจ๋ง ต้นแบบสร้างการขายดีที่สุดของริธึ่ม ส่งภาพรวมรายได้ริธึ่มทั่วโลกทะลุ 500 ล้านยูเอสดอลลาร์

นายทากาโนริ คูโดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการ บริษัท ริวาโค (ฮ่องกง) จำกัด ดูแลด้านการตลาดและขายนาฬิกาแบรนด์ริธึ่ม รวมถึงอุปกรณ์อะไหล่และธุรกิจนาฬิกาข้อมือริธึ่ม ในเครือบริษัท ริธึ่ม วอทช์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาริธึ่มได้เข้ามารุกตลาดนาฬิกาข้อมือภายใต้แบรนด์ ริธึ่ม เนื่องจากมองเห็นโอกาสของตลาดนี้ว่ายังมีช่องว่างและเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง จึงได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือไม่ต่ำกว่า 500 ดีไซน์ จำหน่ายกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ผลิตจากฐานผลิตนาฬิกาของริธึ่มทั้ง 3 โรงงาน คือ ญี่ปุ่น จีน และเวียดนาม พบว่าได้รับการตอบรับเกินคาดจนผลิตแทบไม่เพียงพอต่อความต้องการ

ดังนั้น ขณะนี้ทางบริษัทแม่จึงมีแนวคิดที่จะขยายฐานกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 แห่งหากฐานผลิตเดิมผลิตเต็มอัตราในช่วง 3-5 ปีนี้ โดยไทยถือเป็นประเทศแรกที่เล็งไว้จะเป็นที่ตั้งของฐานผลิตแห่งที่ 4 ด้วยเหตุผลหลายปัจจัย เช่น แรงงานที่มีฝีมือ มีความชำนาญ ถึงแม้ว่าค่าแรงจะสูงกว่าบางประเทศ คาดว่าการลงทุนครั้งนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับนาฬิกาข้อมือริธึ่มได้ทำตลาดในไทยเป็นประเทศแรก และพบการตอบรับที่ดีมากจนเป็นตลาดสำคัญของริธิ่ม และเป็นต้นแบบการขายให้แก่ประเทศอื่นๆ เข้ามาดูงาน ที่จะช่วยผลักดันยอดขายรวมในส่วนของรีเทลทั่วโลกในปีนี้สู่เป้าหมาย 500 ล้านยูเอสดอลลาร์ เติบโตขึ้น 10-15% มาจากนาฬิกาแขวนผนังและตั้งโต๊ะ 90% และนาฬิกาข้อมือ 10% และใน 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% เท่าๆ กัน

ด้านนางสาวอิงอร ดิลกธราดล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโนเวชั่น ไทม์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ริธึ่มในประเทศไทย กล่าวต่อว่า แผนการตลาดปีนี้จะให้ความสำคัญต่อกลุ่มนาฬิกาข้อมือเป็นหลัก รุกขยายช่องทางจำหน่ายในส่วนของตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศให้ได้ 450 ราย และเข้าสู่กลุ่มโมเดิร์นเทรดมากขึ้นในห้างเซ็นทรัล จากเดิมที่วางจำหน่ายในเดอะมอลล์ และโรบินสัน

อีกทั้งยังได้เปิดตัวดีไซน์ใหม่อีก 100-200 แบบ วางจำหน่ายตั้งแต่ราคา 2,000-20,000 บาท ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ภายใต้งบการตลาดกว่า 10-15% ของยอดขาย มั่นใจว่าถึงสิ้นปีจะทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% มาจากกลุ่มนาฬิกาแขวนผนังและตั้งโต๊ะ 70% และนาฬิกาข้อมือ 30%

กำลังโหลดความคิดเห็น