xs
xsm
sm
md
lg

“ไก่ห้าดาว” โหมเอเซียขายผ่านอินเทอร์เน็ต-ดีลิเวอรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายซานจีฟ แพนท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อินเดีย จำกัด
ซีพีเอฟวางเป้าหมายดันไก่ห้าดาวรุ ก เอเซียเต็มพิกัด หวังรายได้สัดส่วนเท่ากัน ตั้งเป้า ครบ 4,000 สาขาเฉพาะ ในเเอเซียในอีก 3 ปี ล่าสุดอัดงบ 3 พันล้านบาท โหม ตลาดอินเดียและเวียดนาม เพิ่มจุดขาย 500 สาขาแต่ละ ประเทศใน 5 ปี เตรียมต่อยอดธุรกิจบริการส่งถึงที่-ขายไก่ผ่านเน็ต

นายซานจีฟ แพนท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อินเดีย จำกัด เปิดเผยว่า ทางกลุ่มซีพีเอฟมีนโยบายที่จะให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจไก่ห้าดาว โดยจะเน้นในตลาดแถบเอเชียทั้งหมด เนื่องจากในพื้นที่เอเซียนี้จะเอื้อต่อการผลิตสินค้าที่จะต้องมีการเปิดฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในประเทศที่ทำธุรกิจ เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและใช้ระยะเวลาในการส่งวัตถุดิบ การดำเนินการต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น ทำให้มีคุณภาพและสดใหม่

ปัจจุบันบริษัทฯ มีฟาร์มในเอเชียเกือบทุกประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เขมร พม่า กัมพูชา บังคลาเทศ ลาว และฟิลิปปินส์ และคาดว่าภายใน 5 ปีนี้ไก่ย่างห้าดาวจะมีสาขาเพิ่มขึ้นกว่า 3-4 พันสาขาทั่วเอเชีย โดยที่ยังไม่นับรวมจุดขายไก่ห้าดาวในประเทศไทย

ประเทศไทยถือเป็นต้นกำเนิดของไก่ย่างห้าดาวซึ่งขณะนี้มีจุดขายมากถึง 5,000 สาขาทั่วประเทศแล้วก็จะมีการขยายต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่ในประเทศเอเชียหลายประะเทศก็มีหลายจุดขายแล้ว ได้แก่ พม่า 150 สาขา, กัมพูชา 70 สาขา, บังคลาเทศ 70 สาขา, อินเดีย 20 สาขา, เวียดนาม 50 สาขา, อินเดีย 20 สาขาและลาว 5 สาขา

โดยสัดส่วนรายได้ในประเทศของปี 2555 คิดเป็น 90% และรายได้จากประเทศแถบเอเชียคิดเป็น 10% แต่ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30% หรืออีก 10 ปีข้างหน้านั้นอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีสัดส่วนอย่างละ 50% เท่ากัน

ล่าสุดบริษัทฯ วางแผนลงทุนทั้งในอินเดียและเวียดนามต่อเนื่อง เพราะอินเดียและเวียดนามเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยตั้งเป้าหมายจะขยายสาขาให้ได้ในอีก 5 ปีจากนี้ ให้ได้ 500 จุดในแต่ละประเทศ โดยใช้งบการลงทุนทั้งสิ้นในแต่ละประเทศไม่ต่ำกว่า 50-60 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะผลักดันให้ยอดขายในอินเดียเติบโต 30-40% ในปีนี้ เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่เพิ่งดำเนินธุรกิจได้เพียง 6 เดือน ส่วนในเวียดนามคาดว่าน่าจะเติบโต 20-30% หลังจากธุรกิจดำเนินมาได้ 2 ปีแล้ว

สำหรับสินค้าที่เปิดจำหน่ายในอินเดียนั้นจะเป็นไก่ทอด ไก่ย่าง และอาหารขบเคี้ยว ซึ่งจะมี 2 รสชาติคือ รสชาติของอินเดียแท้ และรสชาติของไทยที่มิกซ์กับรสชาติ ของอินเดีย ส่วนในเวียดนามนั้นเป็นรสชาติเหมือนของไทย ซึ่งการจำหน่ายสินค้าในอินเดียส่วนใหญ่เปิดเป็นแบบช็อปฟอร์เมตไก่ย่างห้าดาวขนาด 10 ตร.ฟุต ส่วนในเวียดนามเปิดเป็นคีออสเหมือนกับในไทย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมต่อยอดธุรกิจในรูปแบบอื่นด้วย เช่น บริการส่งถึงที่ (Home Delivery) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ในช่วงวัยทำงานซึ่งมีเวลาน้อยคิดเป็น 60% ของประชากรในเมืองหลักของทั้ง 2 ประเทศ โดยคาดว่าจะเปิดตัวธุรกิจภายในปีนี้ และคาดว่าสัดส่วนที่ได้จากการบริการส่งถึงที่ น่าจะอยู่ที่ 5% และในปีหน้าอาจจะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านทางอินเทอร์เน็ตอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น