xs
xsm
sm
md
lg

หยุดจ่ายก๊าซฯพม่าวันแรกอากาศเย็นไทยผ่านวิกฤตไฟฉลุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"เพ้ง"ขอบคุณคนไทยร่วมประหยัดไฟรับก๊าซฯพม่าหยุดจ่ายวันแรกผ่านฉลุย ดันสำรองพุ่งสูงแถมอากาศเย็นลง 2 องศา. หนุนประหยัดต่อ9-10เมษายน ระยะยาวไทยต้องไม่มีคำว่าวิกฤตไฟจวกพวกต้านโรงไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานเป็นพวกต่อต้านสังคมไม่ใช่เอ็นจีโอ

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่าสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าในวันนี้ (5 เม.ย.) ผ่านพ้นวิกฤติไฟตกและไฟดับแล้วในทุกส่วนของประเทศแม้แต่จุดเสี่ยงอย่างเขตลาดพร้าว บางกะปิและรัชดาเนื่องจากความร่วมมือของภาคเอกชนที่ลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ 1,000 เมกะวัตต์ และภาคประชาชนลดการใช้ไฟอีก 700 เมกะวัตต์ เนื่องจากในช่วงเวลา 14.00 น. เป็นช่วงเวลาการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) อยู่ที่ระดับ 24,955 เมกะวัตต์ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 26,600 เมกะวัตต์ หรือลดลง 1,700 เมกะวัตต์ ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.มีปริมาณสำรองไฟฟ้าอยู่ที่ 2,450 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นมากกว่า15 %ประกอบกับอุณหภูมิวันนี้ปรับลดลงประมาณ 2 องศาเซลเซียส อยู่ที่ 37.5 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยบรรเทาความร้อนลงได้บ้าง
"ผมขอบคุณทุกภาคส่วนและขอให้ประหยัดไฟฟ้าช่วยชาติต่อไปเพราะยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย และขอความร่วมมือให้ช่วยกันประหยัดไฟฟ้าต่อเนื่องในวันที่ 9-10 เมษายนนี้"นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
อย่างไรก็ตามอนาคตไทยไม่ควรจะมีคำวิกฤตไฟฟ้าอีกเพราะถือเป็นความมั่นคงของประเทศซึ่งความจำเป็นในการจัดหาไฟให้พอและมีราคาที่เหมาะสมมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจดังนั้นกลุ่มเอ็นจีโอที่ต่อต้านโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานสากลก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแต่ถ้าโรงไฟฟ้าสร้างเสร็จได้มาตรฐานแล้วยังต่อต้านอีกมองว่าคนพวกนี้เป็นคนต่อต้านสังคมไม่ใช่เอ็นจีโอ

นายสุทัศน์ ปัทมศิริวัฒน์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า มีความมั่นใจว่าในวันที่ 9 และ 10 เมษายนนี้จะไม่เกิดปัญหาไฟตกและไฟดับ โดยได้ประสานกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (ส.อ.ท.) และโรงงานต่าง ๆ ก็พร้อมลดใช้ไฟ ซึ่งจะช่วยประหยัดได้หลายร้อยเมกะวัตต์ และเชื่อว่าจะมีปริมาณไฟฟ้าสำรองที่ 2,400 เมกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการใช้

ส่วนการสำรองน้ำมันเตา อยู่ที่ 90 ล้านลิตร และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 50 ล้านลิตร ส่วนค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) คว่าจะไม่มีการปรับขึ้น เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้.-สำนักข่าวไ











กำลังโหลดความคิดเห็น