สมอ.จับมือ ปคบ.เร่งคุมเข้มแบตเตอรี่ไม่ได้มาตรฐาน หลังมีผู้ลักลอบนำมาจำหน่ายมากขึ้น หวังเช็กบิลแหล่งผลิตและนำเข้ารายใหญ่ให้ได้ หลังจับมาตั้งแต่ปี 2553 ยังไร้ผล จับได้แค่ผู้จำหน่าย 93 ราย ยึดของกลางหมื่นชิ้น มูลค่า 4 ล้านบาท แจงกรณีแบตเตอรี่มือถือไอโฟนระเบิดไม่อยู่ในอำนาจ สมอ.จะไปควบคุมดูแลได้ เหตุ สมอ.จะดูแลเฉพาะแบตเตอรี่ที่แยกเป็นชิ้นเท่านั้น
นายสุรพงษ์ เชียงทอง เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) แถลงข่าวร่วมกับ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ คุ้มสระพรหม รองผู้บังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (รอง ผบก.ปคบ.) เรื่องการควบคุมมาตรฐานแบตเตอรี่มือถือว่า จากการตรวจสอบในท้องตลาดพบว่ามีการลักลอบนำเข้าแบตเตอรี่มือถือไม่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายจำนวนมาก ทั้งในห้างสรรพสินค้า ร้านค้ารายย่อย และตลาดทั่วประเทศ ส่งผลให้ผู้บริโภคที่ชอบซื้อแบตเตอรี่โทรศัพท์ในราคาถูกมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อการเกิดโทรศัพท์ระเบิด หรือแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ดังนั้น สมอ.จะร่วมมือกับ ปคบ.ในการเร่งจับกุมผู้ผลิตและนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเข้มงวดมากขึ้น
“สมอ.จะร่วมมือกับ ปคบ.ในการล่อซื้อเพื่อจับกุม โดยจะพยายามทำลายโกดัง ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมายังไม่สามารถเอาผิดกับผู้ผลิตและนำเข้าแบกเตอรี่ผิดกฎหมายได้ก็พยายามจะส่งสายสืบอยู่ และในฐานะผู้บริโภคเองก่อนซื้อก็จะต้องตรวจสอบมาตรฐาน มอก. และแหล่งที่มา ซึ่งบางครั้งยอมรับว่าดูยากก็ขอให้ดูก่อนว่าราคาผิดปกติหรือไม่ และขายในที่สุ่มเสี่ยงหรือเปล่า” นายสุรพงษ์กล่าว
ส่วนกรณีแบตเตอรี่มือถือยี่ห้อดังระเบิด โดยระบุว่ากรณีการระเบิดของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือไอโฟนที่เป็นข่าวนั้นไม่อยู่ในข่ายที่ สมอ.จะเข้าไปตรวจสอบเรื่องมาตรฐานได้ เพราะเป็นการนำเข้ามาแบบไม่ได้แยกชิ้นส่วน โดยติดมากับตัวเครื่องมือถือ ซึ่งตามกฎหมายส่วนนี้ต้องขออนุญาตนำเข้ากับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
สำหรับแบตเตอรี่และถ่านที่แยกเป็นชิ้นจะเป็นอำนาจในการดูแลของ สมอ. โดยล่าสุดกรณีแบตเตอรี่ที่วางจำหน่ายทั่วไป สมอ.ได้ตรวจติดตามอย่างใกล้ชิดตามผลิตภัณฑ์มาตรฐานบังคับ มอก. เลขที่ 2217-2548 มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเซลล์และแบตเตอรี่ทุติยภูมิที่มีอิเล็กโทรไลน์ หรืออิเล็กโทรไลน์อื่นที่ไม่ใช่กรด ปัจจุบันมีผู้ผลิตในประเทศ 3 ราย และผู้นำเข้า 150 ราย จากการตรวจสอบจับกุมผู้กระทำผิดตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบันจับกุมผู้จำหน่ายแล้วจำนวน 93 ราย ของกลางเป็นแบตเตอรี่มือถือมากกว่าหนึ่งหมื่นชิ้น มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท
ทั้งนี้ โทษของผู้จำหน่ายแบตเตอรี่ไม่ได้มาตรฐานมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนโทษของผู้ทำหรือผู้นำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านหรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมายังไม่สามารถจับกุมผู้ผลิตและนำเข้าได้
