ไม่ว่าตอนนี้คุณจะอยู่ในสถานภาพอย่างไร เพิ่งเริ่มทำงาน มีตำแหน่งหน้าที่การงานเติบโตขึ้นเป็นลำดับ กำลังจะเกษียณอายุ หรือกำลังเป็นทุกข์กับการมีชีวิตอยู่ต่อไปหลังเกษียณ หลังจากได้มีโอกาสติดตามเส้นทางการเปลี่ยนแปลงเพื่อพลิกชีวิตมาจนถึงตอนนี้ หลายคนคงอยากเป็น “คนไม่ธรรมดา” ที่ประสบความสำเร็จในการจัดการเรื่องเงินๆทองๆกันทั้งนั้น
ปัญหาก็คือ ส่วนใหญ่คงคิดอยู่ในใจว่า ทำอย่างไรที่จะอดทนต่อสิ่งเร้าภายใต้กระแสบริโภคนิยมที่เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เราไม่สามารถก้าวเดินไปเพื่อเปลี่ยนแปลงเพื่อพลิกชีวิตได้สำเร็จ ไม่พลัดหล่นไปสู่ “กับดักแห่งหนี้สิน” เพื่อเพราะต้องการตอบสนอง “ความสุข” หรือ “ความต้องการเพียงชั่ววูบ”
อะไรคือ ความแตกต่างที่ทำให้ คนบางคนสามารถ ”ฟันฝ่า” จนสามารถกลายเป็น บุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งๆที่อาจจะเคยล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน
นอกเหนือจากความกล้าที่จะเริ่มต้น ความมุ่งมั่นในเรื่องของจิตใจที่จะก้าวเดินไปให้ถึง“จุดหมาย” โดยมี “จิตวิญญาณของผู้ไม่ยอมแพ้” โดยเฉพาะการยอมแพ้ต่อ ”จิตใจ” ของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ
ลองไปดูกรณีตัวอย่าง ของ ชายแก่คนหนึ่งที่ล้มเหลวมาเกือบตลอดชีวิต จนถึงขั้นเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่ใน “นาทีวิกฤติ” มีบางสิ่งที่ทำให้เขาจุดประกายหวนคิดขึ้นได้ว่า เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ตลอด 65 ปีที่ผ่านมา
คงมีน้อยคนที่จะไม่เคยเห็นหรือไม่รู้จัก ตาแก่หนวดเฟิ้มท่าทางใจดี ที่มี “รูปปั้น” เป็นสัญลักษณ์วางอยู่ตามหน้าร้านขายไก่ทอด “ฟาสต์ฟู้ด” เคเอฟซี (เคนตักกี้ ฟราย ชิคเก้น)
พันเอก ฮาร์แลนด์ เดวิดแซนเดอร์ส ถึงแม้จะเป็นพ่อครัวฝีมือดี แต่ตลอดชีวิตของเขาก็ล้มเหลวกับหน้าที่การงานมาโดยตลอด แต่ในที่สุดเขาก็สามารถกลายเป็น มหาเศรษฐี ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ในช่วงบั้นปลายของชีวิต
ชีวิตในวัยเด็กของแซนเดอร์สนั้นเข้าขั้นลำบากอย่างแสนสาหัส เพราะต้องรับภาระในการช่วยดูแลน้องๆอีกสองคน เนื่องจากคุณพ่อของผู้พันแซนเดอร์สเสียชีวิตไปตั้งแต่แกอายุเพียง 5 ขวบ
คุณลุงแซนเดอร์สต้องเลิกเรียนกลางคัน และออกมาหางานทำเพื่อช่วยเลี้ยงดูครอบครัวกับคุณแม่ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ทำงานสารพัด และตัดสินใจไปเป็นทหารในตอนอายุ 15 ปี หลังปลดประจำการออกมาแกต้องทำงานอีกหลายอย่างแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องหันมาเป็นพ่อครัว เนื่องจากพอมีฝีมือด้านการทำอาหาร ลงทุนเปิดร้านเองตอนอายุ 40 ปี และมาค้นพบสูตรลับการทอดไก่สำเร็จตอนอายุปาเข้าไป 49 ปี
แซนเดอร์สเสียชีวิตตอนอายุ 90 ปี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี 1980 ที่หลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกี แต่จวบจนถึงวันนี้คนทั้งโลกก็รู้จักเขาในฐานะเจ้าของตำรับไก่ทอดสุดอร่อยที่มีสาขาไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วโลก
ไม่ต่างอะไรกับ มหาเศรษฐีของโลก บิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ร่วมกับ พอล อัลเลน ที่บุกเบิกและปฏิวัติวงการคอมพิวตอร์ของโลก จนทำให้ ไมโครซอฟท์ กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์มาอย่างยาวนาน แต่ก่อนหน้านั้นในสมัยเป็นวัยรุ่น เขาถูกปรามสว่าเป็นเพียง เด็กสกปรกที่ติดจะบ๊องๆ บ้าคอมพิวเตอร์ แถมถูกปรามาสว่าเป็นเพียงเด็กประหลาดคนหนึ่งในสายตาของ ผู้บริหารของ ยักษ์สีน้ำเงินอย่าง ไอบีเอ็ม แต่มาถึงวันนี้ทุกคนคงต้องยอมรับว่า เขาคือ ผู้นำบริษัทซอฟแวร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ล่าสุด ความสำเร็จของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Facebook.com ก็ทำให้เราเห็นว่า เพราะความคิดที่แตกต่าง เด็กหนุ่มคนนี้ สามารถกลายมาเป็นมหาเศรษฐี อันดับที่ 785 ของโลก ในขณะที่เขายังเรียนหนังสือไม่จบ
บางครั้งวุฒิการศึกษาอาจไม่มีความสำคัญ หากเราไม่รู้จักพัฒนาความคิด ค้นคว้า หาข้อมูล และนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงให้ได้ผล
เขาลาออกจาก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตั้งแต่ตอนอายุ 26 ปี เพื่อมาทำในสิ่งที่เขาเชื่อ โดยการพัฒนาโปรแกรมที่สามารถสร้างเครือข่ายทางสังคมแบบเรียลไทม์ ที่กลายมาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตของความสำเร็จอีกบทหนึ่งของการปฏิวัติวงการเทคโนโลยีและสารสนเทศ
www.facebook.com สามารถประสบความสำเร็จอย่างถล่มทะลาย มีสมาชิกกว่าล้านคนในเวลาไม่ถึงปี และภายในระยะเวลาแค่ 6 ปี คนทุกทวีปจากทุกเชื้อชาติทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารกันแบบสองทางในชั่ววินาทีลัดนิ้วมือเดียว จนมีสมาชิกกว่า 350 ล้านคน และกำลังจะกลายเป็นเครือข่าย Social Network Media ที่มีคนใช้มากที่สุดของโลก
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ มุมมองและความคิดที่แตกต่าง รวมทั้งจิตใจที่มีความมุ่งมั่น ซึ่งมันจะส่งผลให้มีพลังมากพอที่จะสร้างปาฏิหาริย์และสิ่งมหัศจรรย์ให้กับชีวิตคุณ
คุณเคยรู้สึกไหมว่า บางครั้งงานที่คุณทำอยู่มันอาจดูเล็กลงและแทบจะไม่มีความหมายอะไรเลยเมื่อเทียบกับ สิ่งที่คุณต้องการในชีวิต แต่บางครั้งเพียงแค่ แรงบันดาลใจเล็กๆ มันก็สามารถก่อตัวเป็นระลอก เพื่อสร้างกระแสที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้
เริ่มต้นจากก้าวเล็กๆไปทีละก้าว ตามหนทางชีวิตที่เราเองเป็นผู้ลิขิต บ่อยครั้งทีความล้มเหลวมันมักจะยิ้มเยาะให้กับเรา แต่มันคือบทเรียนอย่างดีเพื่อไม่ให้ก้าวต่อไปของเราผิดพลาด
ไม่ว่าหนทางจะยาวไกล อุปสรรคจะมากเพียงใดก็ตามที ในทุกย่างก้าว หากเรามุ่งมั่นในพันธะสัญญาในจิตใจของเราที่จะไม่มีทางยอมแพ้ให้กับมันแม้เพียงก้าวเดียว เส้นทางยาวไกลแค่ไหนเราก็จะไปจนถึง
ความกลัวทำให้เรารู้สึกเล็กลง แล้วนี่ก็คือต้นเหตุแห่งความล้มเหลว แต่เคยคิดไหมว่า ความกลัวที่เกิดขึ้นแท้จริง มันเกิดขึ้นเพียงเพราะคุณคิดไปเอง
ก้าวออกไปเพื่อเผชิญกับความกลัวในใจคุณ คิดในเชิงบวกกับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของคุณทุกๆย่างก้าว เชื่อมั่น ศรัทธาในฝัน ไม่ว่าฝันของคุณจะเป็นอย่างไร จงสร้างและทำฝันนั้นให้เป็นจริง
เริ่มต้นสร้างความแตกต่างจากสิ่งที่เคยเป็น ผมมั่นใจว่า หากคุณเชื่อมั่นและศรัทธา มหัศจรรย์แห่งชีวิตจะเกิดขึ้นกับคุณ ด้วยมือของคุณ
ปัญหาก็คือ ส่วนใหญ่คงคิดอยู่ในใจว่า ทำอย่างไรที่จะอดทนต่อสิ่งเร้าภายใต้กระแสบริโภคนิยมที่เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เราไม่สามารถก้าวเดินไปเพื่อเปลี่ยนแปลงเพื่อพลิกชีวิตได้สำเร็จ ไม่พลัดหล่นไปสู่ “กับดักแห่งหนี้สิน” เพื่อเพราะต้องการตอบสนอง “ความสุข” หรือ “ความต้องการเพียงชั่ววูบ”
อะไรคือ ความแตกต่างที่ทำให้ คนบางคนสามารถ ”ฟันฝ่า” จนสามารถกลายเป็น บุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งๆที่อาจจะเคยล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน
นอกเหนือจากความกล้าที่จะเริ่มต้น ความมุ่งมั่นในเรื่องของจิตใจที่จะก้าวเดินไปให้ถึง“จุดหมาย” โดยมี “จิตวิญญาณของผู้ไม่ยอมแพ้” โดยเฉพาะการยอมแพ้ต่อ ”จิตใจ” ของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ
ลองไปดูกรณีตัวอย่าง ของ ชายแก่คนหนึ่งที่ล้มเหลวมาเกือบตลอดชีวิต จนถึงขั้นเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่ใน “นาทีวิกฤติ” มีบางสิ่งที่ทำให้เขาจุดประกายหวนคิดขึ้นได้ว่า เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ตลอด 65 ปีที่ผ่านมา
คงมีน้อยคนที่จะไม่เคยเห็นหรือไม่รู้จัก ตาแก่หนวดเฟิ้มท่าทางใจดี ที่มี “รูปปั้น” เป็นสัญลักษณ์วางอยู่ตามหน้าร้านขายไก่ทอด “ฟาสต์ฟู้ด” เคเอฟซี (เคนตักกี้ ฟราย ชิคเก้น)
พันเอก ฮาร์แลนด์ เดวิดแซนเดอร์ส ถึงแม้จะเป็นพ่อครัวฝีมือดี แต่ตลอดชีวิตของเขาก็ล้มเหลวกับหน้าที่การงานมาโดยตลอด แต่ในที่สุดเขาก็สามารถกลายเป็น มหาเศรษฐี ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ในช่วงบั้นปลายของชีวิต
ชีวิตในวัยเด็กของแซนเดอร์สนั้นเข้าขั้นลำบากอย่างแสนสาหัส เพราะต้องรับภาระในการช่วยดูแลน้องๆอีกสองคน เนื่องจากคุณพ่อของผู้พันแซนเดอร์สเสียชีวิตไปตั้งแต่แกอายุเพียง 5 ขวบ
คุณลุงแซนเดอร์สต้องเลิกเรียนกลางคัน และออกมาหางานทำเพื่อช่วยเลี้ยงดูครอบครัวกับคุณแม่ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ทำงานสารพัด และตัดสินใจไปเป็นทหารในตอนอายุ 15 ปี หลังปลดประจำการออกมาแกต้องทำงานอีกหลายอย่างแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องหันมาเป็นพ่อครัว เนื่องจากพอมีฝีมือด้านการทำอาหาร ลงทุนเปิดร้านเองตอนอายุ 40 ปี และมาค้นพบสูตรลับการทอดไก่สำเร็จตอนอายุปาเข้าไป 49 ปี
แซนเดอร์สเสียชีวิตตอนอายุ 90 ปี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี 1980 ที่หลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกี แต่จวบจนถึงวันนี้คนทั้งโลกก็รู้จักเขาในฐานะเจ้าของตำรับไก่ทอดสุดอร่อยที่มีสาขาไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วโลก
ไม่ต่างอะไรกับ มหาเศรษฐีของโลก บิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ร่วมกับ พอล อัลเลน ที่บุกเบิกและปฏิวัติวงการคอมพิวตอร์ของโลก จนทำให้ ไมโครซอฟท์ กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์มาอย่างยาวนาน แต่ก่อนหน้านั้นในสมัยเป็นวัยรุ่น เขาถูกปรามสว่าเป็นเพียง เด็กสกปรกที่ติดจะบ๊องๆ บ้าคอมพิวเตอร์ แถมถูกปรามาสว่าเป็นเพียงเด็กประหลาดคนหนึ่งในสายตาของ ผู้บริหารของ ยักษ์สีน้ำเงินอย่าง ไอบีเอ็ม แต่มาถึงวันนี้ทุกคนคงต้องยอมรับว่า เขาคือ ผู้นำบริษัทซอฟแวร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ล่าสุด ความสำเร็จของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Facebook.com ก็ทำให้เราเห็นว่า เพราะความคิดที่แตกต่าง เด็กหนุ่มคนนี้ สามารถกลายมาเป็นมหาเศรษฐี อันดับที่ 785 ของโลก ในขณะที่เขายังเรียนหนังสือไม่จบ
บางครั้งวุฒิการศึกษาอาจไม่มีความสำคัญ หากเราไม่รู้จักพัฒนาความคิด ค้นคว้า หาข้อมูล และนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงให้ได้ผล
เขาลาออกจาก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตั้งแต่ตอนอายุ 26 ปี เพื่อมาทำในสิ่งที่เขาเชื่อ โดยการพัฒนาโปรแกรมที่สามารถสร้างเครือข่ายทางสังคมแบบเรียลไทม์ ที่กลายมาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตของความสำเร็จอีกบทหนึ่งของการปฏิวัติวงการเทคโนโลยีและสารสนเทศ
www.facebook.com สามารถประสบความสำเร็จอย่างถล่มทะลาย มีสมาชิกกว่าล้านคนในเวลาไม่ถึงปี และภายในระยะเวลาแค่ 6 ปี คนทุกทวีปจากทุกเชื้อชาติทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารกันแบบสองทางในชั่ววินาทีลัดนิ้วมือเดียว จนมีสมาชิกกว่า 350 ล้านคน และกำลังจะกลายเป็นเครือข่าย Social Network Media ที่มีคนใช้มากที่สุดของโลก
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ มุมมองและความคิดที่แตกต่าง รวมทั้งจิตใจที่มีความมุ่งมั่น ซึ่งมันจะส่งผลให้มีพลังมากพอที่จะสร้างปาฏิหาริย์และสิ่งมหัศจรรย์ให้กับชีวิตคุณ
คุณเคยรู้สึกไหมว่า บางครั้งงานที่คุณทำอยู่มันอาจดูเล็กลงและแทบจะไม่มีความหมายอะไรเลยเมื่อเทียบกับ สิ่งที่คุณต้องการในชีวิต แต่บางครั้งเพียงแค่ แรงบันดาลใจเล็กๆ มันก็สามารถก่อตัวเป็นระลอก เพื่อสร้างกระแสที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้
เริ่มต้นจากก้าวเล็กๆไปทีละก้าว ตามหนทางชีวิตที่เราเองเป็นผู้ลิขิต บ่อยครั้งทีความล้มเหลวมันมักจะยิ้มเยาะให้กับเรา แต่มันคือบทเรียนอย่างดีเพื่อไม่ให้ก้าวต่อไปของเราผิดพลาด
ไม่ว่าหนทางจะยาวไกล อุปสรรคจะมากเพียงใดก็ตามที ในทุกย่างก้าว หากเรามุ่งมั่นในพันธะสัญญาในจิตใจของเราที่จะไม่มีทางยอมแพ้ให้กับมันแม้เพียงก้าวเดียว เส้นทางยาวไกลแค่ไหนเราก็จะไปจนถึง
ความกลัวทำให้เรารู้สึกเล็กลง แล้วนี่ก็คือต้นเหตุแห่งความล้มเหลว แต่เคยคิดไหมว่า ความกลัวที่เกิดขึ้นแท้จริง มันเกิดขึ้นเพียงเพราะคุณคิดไปเอง
ก้าวออกไปเพื่อเผชิญกับความกลัวในใจคุณ คิดในเชิงบวกกับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของคุณทุกๆย่างก้าว เชื่อมั่น ศรัทธาในฝัน ไม่ว่าฝันของคุณจะเป็นอย่างไร จงสร้างและทำฝันนั้นให้เป็นจริง
เริ่มต้นสร้างความแตกต่างจากสิ่งที่เคยเป็น ผมมั่นใจว่า หากคุณเชื่อมั่นและศรัทธา มหัศจรรย์แห่งชีวิตจะเกิดขึ้นกับคุณ ด้วยมือของคุณ