“ดีเคเอสเอช” ปรับแผนตลาดเลโก้ สร้างหน้าขายทั้งปีหวังดันยอด พร้อมลดราคาลงหลังค่าเงินบาทแข็ง ขยายฐานตลาดต่างจังหวัด
นายชูเกียรติ โตกมลธรรม ผู้อำนวยการธุรกิจอาวุโส บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับแผนการทำตลาดผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เลโก้ใหม่เริ่มตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่คาดว่าจะเริ่มชัดเจนมากขึ้นในปีนี้ ด้วยการพยายามสร้างยอดขายเลโก้ให้ได้ทั้งปี ไม่ได้พึ่งหวังเพียงขายดีแค่ช่วงเทศกาลวันเด็กหรือช่วงซัมเมอร์หรือปีใหม่เท่านั้น รวมทั้งจะมีสินค้าคอลเลคชันใหม่ๆออกมาตอบสนองแผนการตลาดดังกล่าวด้วย
“การทำตลาดจากนี้ เช่นช่วงซัมเมอร์เราก็จะออกสินค้าเกี่ยวกับกลุ่มเด็กโตขึ้นมาหน่อย ส่วนช่วงโลวซีซั่นส์ก็จะออกสินค้าที่จับกลุ่มเด็กก่อนวัยเรียน ซึ่งจะทำให้เรามีช่วงเวลาขายสินค้าตลอด ขายได้ทั้งปี ไม่ใช่ขายดีช่วงใดช่วงหนึ่งเท่านั้น”
นอกจากนั้นจะมีการขยายสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามห้างสรรพสินค้าที่มีการขยายสาขาไปต่างจังหวัดมากขึ้น ทำให้ช่องทางจำหน่ายเลโก้เพิ่มขึ้นด้วย ปัจจุบันสัดส่วนมาจากกรุงเทพ 70% ต่างจังหวัด 30% คาดว่าปีนี้ต่างจังหวัดดจะเพิ่มเป็น 40% อีกทั้งเมื่อปีที่แล้วที่บริษัทฯได้ปรับลดราคาลงมาประมาณ 5% เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ทำให้ราคาขายต่ำลงมาด้วย
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัว “เลโก้ ชิม่า หรือ เลโก้ เลเจ้นด์ ออฟ ชิม่า” ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอาณาจักรชิม่าเป็นการต่อสู้กันระหว่างเผ่าไลอ้อนและคร็อคโคไดล์ เพื่อครอบครองขุมพลังชิ ซึ่งชุดนี้เหมาะสมกับเด็กอายุ 7 ปีขึ้นไป ราคาจำหน่ายเริ่มตั้งแต่ 540 – 4,000 กว่าบาท ใช้งบการตลาดประมาณ 5 ล้านบาท จากงบตลาดรวมทั้งปี 20 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังก็จะมีออกชุดใหม่ของเลโก้ชิม่าอีก ส่วนเลโก้ในกลุ่มอื่นและกลุ่มเบสิกก็จะมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมาต่อเนื่อง
นายชูเกียรติกล่าวว่า บริษัทฯมั่นใจว่าเลโก้จะยังคงเป็นผู้นำในตลาดของเล่นระดับพรีเมียมด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 20% ซึ่งปัจจุบันตลาดของเล่นเพื่อเสริมทักษะหรือเพื่อการศึกษายังคงมีการเติบโตที่ดี และพ่อแม่รุ่นใหม่เข้าใจถึงการซื้อของเล่นให้กับลูกตัวเอง ที่ต้องเน้นเรื่อการเสริมทักษะเป็นหลัก จึงทำให้ของเล่นเพื่อการศึกษาเติบโตดีไปด้วย
“ตลาดของเลโก้ในประเทศไทยถือว่า เป็นตลาดที่ยอดขายเติบโตดีต่อเนื่องแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียนด้วยในอดีต แต่ขณะนี้ะถูกประเทศมาเลเซียแซงหน้าไปแล้วมียอดขายมากกว่าไทย โดยเฉพาะหลังจากที่เลโก้ได้เปิดตัว เลโก้แลนด์ ที่ประเทศมาเลเซียเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เป็นตัวดึงดูดคนมาท่องเที่ยวและซื้อสินค้าได้ด้วย”
อย่างไรก็ตาม นายชูเกียรติ กล่าวว่า อุปสรรคอย่างหนึ่งที่ทำให้ตลาดของเล่นในไทยสู้ต่างประเทศไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องของราคา เนื่องจากว่า ประเทศ
ไทยมีอัตราภาษีนำเข้าของเล่นสูงถึง 20% มานานแล้ว ซึ่งของเล่นพรีเมียมส่วนใหญ่ในตลาดรวมก็มีการนำเข้า ในส่วนของเลโก้เองก็นำเข้ามาจากเดนมาร์กเกือบ 100%