“เอสเอฟ” จ่อตะลุยอินโดจีน เล็งเวียดนามก่อน หวังลุยทั้งโรงหนังและค้าปลีก เปิดกว้างทั้งร่วมทุนและลงทุนเอง เผยมีกลุ่มทุนเวียดนามมาจีบแล้ว แต่ยันไม่รีบร้อน ล่าสุดทุ่ม 3 พันล้านบาทผุด “เม-ญ่า” ชอปปิ้งเซ็นเตอร์ที่เชียงใหม่
นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานกลุ่มบริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในย่านอินโดจีน เช่น เวียดนาม พม่า กัมพูชา ลาว ซึ่งจะมีทั้งการไปลงทุนเองกับการร่วมลงทุน และมีทั้งการที่จะไปเริ่มลงทุนใหม่กับการที่ทุนท้องถิ่นนั้นชักชวนให้ไปลงทุนต่อเนื่องทั้งธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ โรงหนังและศูนย์การค้า
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นสนใจลงทุนในประเทศเวียดนามมากที่สุด โดยเฉพาะเมืองโฮจิมินห์ เพราะว่าธุรกิจโรงหนังก้าวหน้ามากที่สุดเมื่อเทียบประเทศอื่นด้วยกันในกลุ่มนี้ ซึ่งมีกลุ่มทุนท้องถิ่นเวียดนามมาชักชวนเจรจากับเรา 1-2 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ เนื่องจากว่าต้องศึกษาให้รอบคอบ ซึ่งที่เวียดนามมีกลุ่มทุนโรงหนังจากเกาหลีเปิดบริการอยู่แล้ว
ส่วนที่ลาวก็มีกลุ่มทุนท้องถิ่นมาเจรจาชักชวนเราไปลงทุนด้วย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง แต่ละแห่งตอบไม่ได้ว่าจะสรุปเมื่อไหร่ และจะเห็นการลงทุนในต่างประเทศเมื่อใด เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสรวมทั้งการเจรจาที่ตกลงกันได้ ปัจจัยหลักต้องพิจารณา เช่น กฎหมายต่างๆ ทั้งกฎหมายค้าปลีก กฎหมายเซ็นเซอร์หนัง หรือแม้แต่ตัวคอนเทนต์หนังเองที่ต้องมีมากเพียงพอต่อการป้อนโรงหนังด้วย
นายสุวัฒน์กล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดหลักของเอสเอฟอยู่ ล่าสุดได้ลงทุน 3,000 กว่าล้านบาท สร้างโครงการ “เม-ญ่า” (MAYA) ไลฟ์สไตล์ชอปปิ้งเซ็นเตอร์ ที่ถนนนิมมานเหมินท์ เชียงใหม่ พื้นที่ 9 ไร่ หรือประมาณ 80,000 กว่าตารางเมตร สูง 6 ชั้น อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดบริการไตรมามสามปีนี้ คาดคืนทุนภายใน 9 ปี เพราะลงทุนสูงมาก มีร้านค้ากว่า 220 ร้านค้า ทำเลดังกล่าวถือว่าดีมาก มีสถานศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ล้อมรอบกว่า 1,000 แห่ง และห่างจากสนามบินประมาณ 7 นาที
“เชียงใหม่เป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับ 2 ของไทย และเป็นอันดับหนึ่งในภาคเหนือ เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆของโลก มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 39,000 ล้านบาทต่อปี จากจำนวนประชากรกว่า 1.7 ล้านคน มากเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ และมีกำลังซื้ออีก 5 จังหวัดใกล้เคียง คือ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง ตาก อีกกว่า 2 ล้านคนต่อปี นักท่องเที่ยวต่างประเทศกว่า 5 ล้านคนต่อปี นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเชียงใหม่มากกว่า 5 ล้านคนต่อปี
แบรนด์เม-ญ่านี้จะเป็นแบรนด์ที่ใช้รุกธุรกิจค้าปลีกศูนย์การค้าในทุกที่ ซึ่งมีแผนจะสร้างเพิ่มอีก แต่ต้องรอให้โครงการแรกนี้สำเร็จก่อน ซึ่งเรามีความมั่นใจมาก เนื่องจากมีประสบการณ์ทำค้าปลีกควบคู่กับโรงหนังมามากกว่า 10 ปีที่เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ สาขาแรกของเราในกรุงเทพฯ ที่มีพื้นที่รวมกว่า 25,000 ตารางเมตร
สำหรับปีนี้คาดว่าจะมีผลประกอบการประมาณ 3,600 ล้านบาท เติบโต 20% รายได้ปีที่แล้วประมาณเกือบ 3,000 ล้านบาท ปีนี้ลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท เปิดโรงหนังใหม่อีก 8-10 สาขา รวมกว่า 50 โรง เช่น อุดรธานี กาญจนบุรี เป็นต้น ซึ่งไม่นับรวมการลงทุนที่เม-ญ่าอีกส่วนหนึ่ง
นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานกลุ่มบริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในย่านอินโดจีน เช่น เวียดนาม พม่า กัมพูชา ลาว ซึ่งจะมีทั้งการไปลงทุนเองกับการร่วมลงทุน และมีทั้งการที่จะไปเริ่มลงทุนใหม่กับการที่ทุนท้องถิ่นนั้นชักชวนให้ไปลงทุนต่อเนื่องทั้งธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ โรงหนังและศูนย์การค้า
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นสนใจลงทุนในประเทศเวียดนามมากที่สุด โดยเฉพาะเมืองโฮจิมินห์ เพราะว่าธุรกิจโรงหนังก้าวหน้ามากที่สุดเมื่อเทียบประเทศอื่นด้วยกันในกลุ่มนี้ ซึ่งมีกลุ่มทุนท้องถิ่นเวียดนามมาชักชวนเจรจากับเรา 1-2 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ เนื่องจากว่าต้องศึกษาให้รอบคอบ ซึ่งที่เวียดนามมีกลุ่มทุนโรงหนังจากเกาหลีเปิดบริการอยู่แล้ว
ส่วนที่ลาวก็มีกลุ่มทุนท้องถิ่นมาเจรจาชักชวนเราไปลงทุนด้วย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง แต่ละแห่งตอบไม่ได้ว่าจะสรุปเมื่อไหร่ และจะเห็นการลงทุนในต่างประเทศเมื่อใด เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสรวมทั้งการเจรจาที่ตกลงกันได้ ปัจจัยหลักต้องพิจารณา เช่น กฎหมายต่างๆ ทั้งกฎหมายค้าปลีก กฎหมายเซ็นเซอร์หนัง หรือแม้แต่ตัวคอนเทนต์หนังเองที่ต้องมีมากเพียงพอต่อการป้อนโรงหนังด้วย
นายสุวัฒน์กล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดหลักของเอสเอฟอยู่ ล่าสุดได้ลงทุน 3,000 กว่าล้านบาท สร้างโครงการ “เม-ญ่า” (MAYA) ไลฟ์สไตล์ชอปปิ้งเซ็นเตอร์ ที่ถนนนิมมานเหมินท์ เชียงใหม่ พื้นที่ 9 ไร่ หรือประมาณ 80,000 กว่าตารางเมตร สูง 6 ชั้น อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดบริการไตรมามสามปีนี้ คาดคืนทุนภายใน 9 ปี เพราะลงทุนสูงมาก มีร้านค้ากว่า 220 ร้านค้า ทำเลดังกล่าวถือว่าดีมาก มีสถานศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ล้อมรอบกว่า 1,000 แห่ง และห่างจากสนามบินประมาณ 7 นาที
“เชียงใหม่เป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับ 2 ของไทย และเป็นอันดับหนึ่งในภาคเหนือ เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆของโลก มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 39,000 ล้านบาทต่อปี จากจำนวนประชากรกว่า 1.7 ล้านคน มากเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ และมีกำลังซื้ออีก 5 จังหวัดใกล้เคียง คือ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง ตาก อีกกว่า 2 ล้านคนต่อปี นักท่องเที่ยวต่างประเทศกว่า 5 ล้านคนต่อปี นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเชียงใหม่มากกว่า 5 ล้านคนต่อปี
แบรนด์เม-ญ่านี้จะเป็นแบรนด์ที่ใช้รุกธุรกิจค้าปลีกศูนย์การค้าในทุกที่ ซึ่งมีแผนจะสร้างเพิ่มอีก แต่ต้องรอให้โครงการแรกนี้สำเร็จก่อน ซึ่งเรามีความมั่นใจมาก เนื่องจากมีประสบการณ์ทำค้าปลีกควบคู่กับโรงหนังมามากกว่า 10 ปีที่เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ สาขาแรกของเราในกรุงเทพฯ ที่มีพื้นที่รวมกว่า 25,000 ตารางเมตร
สำหรับปีนี้คาดว่าจะมีผลประกอบการประมาณ 3,600 ล้านบาท เติบโต 20% รายได้ปีที่แล้วประมาณเกือบ 3,000 ล้านบาท ปีนี้ลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท เปิดโรงหนังใหม่อีก 8-10 สาขา รวมกว่า 50 โรง เช่น อุดรธานี กาญจนบุรี เป็นต้น ซึ่งไม่นับรวมการลงทุนที่เม-ญ่าอีกส่วนหนึ่ง
