“เถ้าแก่น้อย” เร่งเครื่องเจาะตลาดโลก หลังครองอันดับหนึ่งของตลาดทั้งในไทยและอีก 9 ประเทศ เผยปี 56 เตรียมระดมทุน 1 พันล้านเข้า ตลท. พร้อมจัดงบฯ 200 ล้านบาทชิงส่วนแบ่ง 3 พันล้านบาท และย้ายโรงงานใหม่ไปปทุมฯ ภายในปี 57 พร้อมเล็งเป้า “จีน” เป็นฐานการผลิตใหม่ภายใน 3 ปีก่อนเจาะตลาดอเมริกา และยุโรป
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สาหร่ายทะเลแปรรูป “เถ้าแก่น้อย” เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในระยะ 10 ปี (2556-2566) เพื่อรองรับการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศว่า บริษัทมีโครงการย้ายฐานการผลิตจาก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ไปบริเวณสี่แยกนพวงศ์ จ.ปทุมธานี ภายในปี 2557 โดยในปี 2555 บริษัทได้ใช้เงินลงทุนเพื่อขยายโรงงานและจัดซื้อเครื่องจักรไปแล้วประมาณ 70 ล้านบาท
“การลงทุนครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส โดยขณะนี้ได้ใช้พื้นที่ไปแล้ว 12 ไร่ จากนั้นภายใน 7 ปีจึงจะขยายการลงทุนทางด้านเครื่องจักรและพัฒนาโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 32 ไร่ รวมเป็น 44 ไร่ โดยคาดว่าต้องใช้งบประมาณลงทุนเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนการผลิตในปัจจุบันได้ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านแผ่นต่อวัน จากนั้นจึงจะขยายกำลังการผลิตตลอด 24 ชั่วโมงเป็น 2.5 ล้านแผ่นต่อวัน”
บริษัทยังมีแผนการลงทุนในต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี หรือเมื่อบริษัทมียอดขายได้ประมาณ 3.5 ล้านแผ่นต่อวันจะเริ่มดำเนินการขยายฐานการผลิตในประเทศจีน หรือหากสามารถทำยอดจำหน่ายในประเทศเมียนมาร์ได้ปีละ 200 ล้านบาทก็อาจจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังประเทศเมียนมาร์
นอกจากนี้ยังจะเริ่มทำตลาดสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรปภายใน 7 ปีก่อนที่จะทำตลาดครอบคลุมทั่วโลกได้ภายใน 10 ปี ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ถึง 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์สาหร่ายทะเลแปรรูปในปี 2555 เติบโตขึ้นประมาณ 40% โดยในส่วนของ “เถ้าแก่น้อย” มียอดจำหน่ายรวมประมาณ 2.4 พันล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 27% หรือคิดเป็น 60% ของตลาดรวม แบ่งเป็นยอดจำหน่ายในประเทศประมาณ 1.6 พันล้านบาท และต่างประเทศ 800 ล้านบาท โดยปัจจุบันทำการส่งออกประมาณ 30 ประเทศ ทั้งยังสามารถทำยอดจำหน่ายเป็นอันดับ 1 ใน 9 ประเทศ คือ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว
ในปี 2556 บริษัทตั้งเป้าการจำหน่ายประมาณ 3 พันล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 2 พันล้านบาท และต่างประเทศ 1 พันล้านบาท โดยได้จัดงบประมาณการตลาดในปี 2556 เป็นจำนวนเงิน 200 ล้านบาท โดยเน้นการทำตลาดด้วยการใช้กลยุทธ์ Idol Marketing
สำหรับพรีเซ็นเตอร์ใหม่ของ “เถ้าแก่น้อย” เป็นศิลปินชื่อดังมาแรงของประเทศเกาหลีใต้คือวงดนตรี “2 PM” ซึ่งมี “คุณ-นิชคุณ หรเวชกุล” ศิลปินวัยรุ่นชาวไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วย โดยเร็วๆ นี้บริษัทจะเปิดตัวแคมเปญ “Hot Taste& Spicy with 2PM” เพื่อนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยร่วมกับศิลปิน “2PM” พร้อมกันนี้ยังร่วมเป็นผู้สนับสนุนรายการทอล์กโชว์ “เดี่ยว 10” ของ “โน้ส-อุดม แต้พานิช” ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นเร็วๆ นี้อีกด้วย
นอกจากนั้น ภายในเดือน ก.พ. ศกนี้ยังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือ “Angry Spicy Bar-B-Q” ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์สาหร่ายสูตรลับเฉพาะตัวที่มีรสชาติเผ็ดร้อน เข้มข้น และกลมกล่อม ซึ่งบริษัทมุ่งหวังให้เป็นผลิตภัณฑ์หลัก (Product Key) ที่จะผลักดันให้บริษัทสามารถทำยอดจำหน่ายได้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก่อนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีกหนึ่งชนิดภายในเดือน ก.ค. ศกนี้
ทั้งนี้ บริษัทจะเร่งดำเนินการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2556 โดยคาดว่าจะสามารถระดมเงินทุนได้ 1 พันล้านบาท